ต้มข่าระกำปลาสลิด

สวัสดีอีกครั้งนะครับ  ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้เขียนได้เดินทางไปเที่ยวที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ได้เข้าไปเยี่ยมสวนผลไม้ของเพื่อนท่านหนึ่งจึงได้ของฝากเป็นผลไม้หลากหลายชนิด หนึ่งในนั้นก็คือ “ระกำ” ที่ผมเองไม่ได้ทานมาสองถึงสามปีแล้ว ที่คงเป็นเพราะการเข้ามาของสละที่ทำให้ผลไม้ชนิดนี้หายหน้าหายตาไปจากแผงผลไม้ตามตลาดต่างๆจนแทบจะหาทานไม่ได้แล้ว  ก่อนกลับบ้านก็ได้ผ่านอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการจึงได้แวะซื้อปลาสลิดและที่พิเศษก็คือวันนั้นเจ้าของบ่อปลาสลิดได้ขุดข่าอ่อนมาขายที่แผงปลาสลิดของเขาด้วย ผมจึงของนำส่วนประกอบทั้งสามอย่างมาทำเมนูในวันนี้ก็คือ “ต้มข่าระกำปลาสลิด”

tomkha1

.สิ่งที่ต้องใช้  ระกำ 7 – 8 ผล, หัวกะทิ ½ ถ้วย, หางกะทิ ½ ถ้วย, ข่าอ่อน 4 – 5 หน่อ, ปลาสลิดขนาดกลาง 4 – 5 ตัว, มะนาวหรือน้ำมะขามเปียกตามชอบ, ตะไคร้ 2 ต้น, ใบมะกรูดประมาณ 3 – 4ใบ, หอมแดง 4 – 5 หัว, พริกขี้หนูสวนตามชอบ, เห็ดฟาง7 – 8ดอก, เกลือ, น้ำตาล, พริกแห้งทอด, ผักชีสำหรับโรยหน้า.ลงมือทำกันเลยดีกว่าครับ– เริ่มต้นจากตั้งกระทะใส่น้ำมันทอดปลาสลิดให้พอสุก แล้วนำมาแกะเอาเนื้อปลาแยกออกจากก้างและครีบ หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วนำไปทอดให้กรอบนำไปพักไว้(ถ้าหาปลาสลิดไม่ได้สามารถใช้ปลาทูนึ่ง หรือปลาชนิดอื่นแทนได้)- ส่วนระกำก็ปลอกเปลือกแล้วฝานเอาเฉพาะเนื้อ- ใส่หัวกระทิและหางกะทิลงไปในหม้อใช้ไฟกลาง หมั่นคนตลอดเพื่อไม่ให้กะทิแตกมัน- พอกะทิเริ่มเดือด นำข่าอ่อน ตะไคร้ ใบมะกรูดลงไป ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขาม(อย่าใส่มากเพราะเราต้องใสเนื้อระกำอีก) น้ำปลา น้ำตาลปึก- จากนั้นนำเห็ดฟางผ่าสี่ส่วน พริกขี้หนูบุบ หอมแดงซอย เนื้อระกำ ใส่ตามลงไป- ท้ายสุดนำเนื้อปลาสลิดที่ทอดไว้ใส่ลงไป เรียบร้อยตักขึ้นสำรับโรยด้วยผักชีและพริกแห้งทอดทานกับข้าวสวยร้อนๆ ก็อร่อยแล้วครับ.

* อยากเล่า  –  ใน 100 กรัมของเนื้อระกำจะมีค่าทางโภชนาการดังนี้พลังงาน 51 กิโลแคลอรี  ไขมัน 0.1 กรัม โปรตีน 0.5 กรัม  วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม วิตามินซี 6 มิลลิกรัมธาตุแคลเซียม 8 มิลลิกรัม ธาตุเหล็ก 0.4 มิลลิกรัม ธาตุฟอสฟอรัส 18 มิลลิกรัม- ระกำมี สรรพคุณในการช่วยป้องกันอาการเป็นหวัดให้กับผู้ที่รับประทานผลระกำเป็นประจำ นอกจากนี้แล้วระกำก็ยังมีสรรพคุณในการแก้กระหายน้ำ และช่วยในการย่อยอาหารและยังทำให้เจริญอาหารอีกด้วย-  ในปลาสลิดก็มี กรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega-3 fatty acids) เราไม่จำเป็นต้องหาปลาแปลกๆ หรือราคาแพงจากเมืองนอกไม่ได้มีคุณค่าทางอาหารดีไปกว่าปลาของไทยเลย- ในบรรดาปลาชนิดต่างๆ ปลาสลิดตากแห้ง มีโปรตีนมากกว่าชนิดอื่น  เมื่อเทียบกับแหล่งโปรตีนจากเนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ.* เกร็ดเล็กๆท้ายบท– เหตุผลที่เราต้องหมั่นคนน้ำกะทิก็เพื่อป้องกันไม่ให้กะทิแตกมัน เพราะถ้ากะทิแตกมันแล้วต้มข่าของเราจะเลี่ยนและไม่อร่อย

Relate Post