เพชรบูรณ์ เป็นเมืองอุดมสมบูรณ์ กุ้งหอยปูปลา ผักนานาชนิดมีมากมาย คิดจะต้มจะแกง เดินลงบันไดบ้านไม่กี่ก้าวก็ได้กินสมใจอยาก ยิ่งอยู่ชายป่าชายดงยิ่งหาของกินง่าย
คนรุ่นพ่อรุ่นปู่ หาอาหารเลี้ยงครอบครัว เตรียมไว้เพียงข้าวและเกลือก็พอ ส่วนที่เหลืออยากจะกินแกงปลา ต้มปลา หรือแกงป่า เข้าพงตัดกระบอกไม้ไผ่มา ใส่ของที่ต้องการลงไป นำไปหลาม เท่านี้ก็ได้อิ่มท้องกัน
วิธีการนี้ตกทอดมาถึงคนรุ่นปัจจุบัน นางละออง สะอาด แม่บ้านจากกลุ่มแม่บ้านนาป่า อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ มาแนะนำ “หลามปลา” อาหารสูตรโบราณ
ที่ต้องเตรียมคือกระบอกไม้ไผ่ ต้องใช้ขนาดใหญ่สักหน่อย ยาวประมาณ 3 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 นิ้ว ปลายด้านหนึ่งให้ติดข้อไผ่ไว้เช่นเดิม ส่วนอีกด้านตัดเป็นปากฉลาม
ปลาที่นิยมคือปลาช่อน หรือปลากด ส่วนเครื่องแกงสูตรดั้งเดิมจะเป็นแกงป่า เพราะไม่ยุ่งยาก แค่ใช้พริกแดงเผา หอมเผา และเกลือโขลกรวมกัน ส่วนประกอบอีกอย่างคือผัก ไม่เจาะจงชนิด ผักอะไรหาได้สะดวกเตรียมเอาไว้
ส่วนปลาล้างสะอาดแล้วเอาเครื่องในออก หั่นเป็นชิ้นๆ ล้างกระบอกไม้ไผ่ให้สะอาด ใส่พริกแกงลงไป ตามด้วยปลา เติมน้ำลงไปเล็กน้อย พับใบตองเป็นก้อนปิดฝาด้านที่ตัดเป็นปากฉลาม หลามบนเตาไปเหมือนเผาข้าวหลาม
ใช้เวลา 10-20 นาที หลามปลาก็สุก ส่งกลิ่นหอมฟุ้ง เปิดฝาจุกใบตองมาเทใส่ถ้วย ใส่ผักที่เตรียมไว้ลงไป ไม่ต้องให้สุก ผักยังคงสีเขียวชวนรับประทาน ชิมรสชาติ อยากได้เปรี้ยวเค็มอย่างไร เติมทีหลังได้
นอกจากรสชาติที่ผ่านการปรุงแต่งน้อย เสน่ห์ของหลามปลาที่สำคัญคือกระบวนการที่อิงธรรมชาติ เป็นที่ชื่นชอบของผู้มาเยือน หลักฐานอย่างหนึ่ง คุณละอองบอกว่า นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวน้ำตกตาดหมอก ตำบลนาป่า ต่างติดใจหลามปลา มาเมื่อใดต้องถามหากันทุกครั้ง
ยืนยันว่าอาหารสูตรพื้นบ้าน ถึงเรียบง่ายแต่ถูกลิ้นถูกใจเสมอ ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย
ที่มา : จานเด็ด 76 จังหวัด | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6784 ข่าวสดรายวัน
