ขอประทานโทษ ‘คอเห็ด (โคน)’ ทั้งหลาย ที่เพิ่งจะมาเขียนถึงอาหารสวรรค์ชั้นฟ้าชนิดนี้เอาเมื่อตลาดวาย
ช่วงที่ผ่านมามัวแต่เพลินกินอยู่ครับ
กว่าจะนึกออกก็เข้าช่วงเห็ดโคนซา
แต่หวังว่าถ้าโชคดี ปีนี้ฝนลากไปอีกหน่อย เอาแบบไม่ต้องตกกระหน่ำ แค่พรำลงมาสักหนสองหน
อาจจะมีเห็ดโคนผุดขึ้นมาอีกระลอกเป็น การส่งท้ายจริงๆ
ส่วนท่านใดจะโชคดี (และใจถึง-มีสตางค์ไปซื้อ) หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะในฐานะผู้รักการบริโภคเห็ดโคนทุกรูปแบบ ขอยืนยันว่าชาติหนึ่งเกิดมาแล้วต้องหาทางรับประทาน เห็ดโคนให้ได้
และถ้ารักจริงควรจะต้องดั้นด้นขวนขวายหากินกันทุกปี
เพราะนี่คือเห็ดชนิดเดียวที่มนุษย์เพาะไม่ได้
ต้องให้ปลวกช่วยทำแทน
และปีหนึ่งจะออกอยู่ไม่กี่วัน คือช่วงปลายฝนจะเข้าต้นหนาว
ราคาของเจ้าหล่อนถึงได้อยู่ที่กิโลกรัมละ 300-400-500 ไปจนถึง 600 หรือ 700 ได้
นี่ถ้าหักน้ำหนักดินที่ติดอยู่กับเห็ดซึ่งมีผู้คำนวณว่าประมาณ 1 ใน 3 ออกไปแล้ว ราคา จริงจะสูงกว่านี้อีก
แต่ถ้าไปหาเก็บเองได้ก็แล้วไป หรือถ้ามีสตางค์มีกำลังอุดหนุนก็ซื้อไปเถอะครับ
คนเก็บมาขายจะได้มีกำลังใจ
ปีละหน หนละไม่กี่วันเท่านั้นเอง
ไม่มีอะไรอีกแล้วที่กรอบ-หวาน-ชื่นใจ เปรียบไม่ได้ บรรยายไม่ถูก
ทำอะไรกินก็อร่อยทั้งนั้น เผา ย่าง ต้มกับน้ำปลาเฉยๆ ต้มยำ ยำ และอีกสารพัดที่จะคิดได้
ขอว่าอย่าปรุงมาก จนอย่างอื่นมากลบรสและกลิ่นวิเศษของเห็ดโคนเองเท่านั้น
แต่จะกินของอร่อยต้องใจเย็นๆ
เห็ดโคนของแท้ต้องมีดินพอกติดมาด้วย
สมัยเป็นเด็ก ‘ย่าใหญ่’ พี่สาวของปู่จะแบกกระสอบ (กระสอบจริงๆ ครับสาบานได้) เห็ดโคนขึ้นรถเมล์มาจากราชบุรี
ในฐานะหลานคนโตสุดของบ้าน งานที่ได้รับมอบหมายจากย่าคือเอาไม้ไผ่เหลาบางมาค่อยๆ ฝานค่อยๆ ปาดดินออก
จากนั้นรุ่นอาๆ ทั้งหลายจะเอาเห็ดโคนไปล้างน้ำอย่างละมุนมือ
คือใส่น้ำลงไปให้ท่วมเห็ด แล้วค่อยๆ เอามือลงไปสั่นๆ ไล้ๆ ให้ดินที่เหลือค่อยๆ หลุดออกมา
แล้วค่อยๆ ประคองกอบเห็ดจากในน้ำขึ้นมาใส่น้ำใหม่
ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 7-8 น้ำเป็นอย่างต่ำ บางหนก็ถึง 10 รอบ
จนรู้สึกว่าสะอาดดี
คราวนี้จะเอาเห็ดไปทำอะไรล่ะ
ห่อใบตองเผาเตาถ่านก็หอมไปแบบหนึ่ง ย่างบนตะแกรงเตาถ่านอีกเหมือนกันก็ได้อีกอารมณ์
แต่ปีนี้ที่บ้านคับแคบ เตาถ่านไม่มี คุณแม่ยายเลือกวิธีเบสิกที่สุดคือต้มกับน้ำปลาพอปะแล่มๆ
จากนั้นก็ตามสะดวก
ตักกินเปล่าๆ ซดน้ำหอมหวานชื่นใจ หรือเอาไปราดข้าว มีน้ำปลาพริกแถมอีกนิด
ที่ฮิตสุดคือยำกับพริกขี้หนูสวนเผ็ดจี๊ดแต่กลิ่นหอมนวล
ข้าวหมดหม้อหมดกะละมังไม่รู้ตัว
ที่มา: ข่าวสด 22 ตุลาคม 2553 เขียง มะขาม .. สวรรค์ในครัว http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNakl5TVRBMU13PT0=
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”