ทอดหัวปี๋เฮ๋บ(ทอดมันหัวปลี)

“อัลโหล อัลโหล แม่จ๋าตำพริกแกงใส่อะไรบ้าง”  

บ้านฉันไม่เคยซื้อพริกแกงสำเร็จจากตลาดมาไว้ที่บ้าน แต่จะตำเองสดๆ ทุกครั้ง มีคนถามว่ามันง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ก็ง่ายจริงๆ ตำโป๊กๆ แป็บเดียวก็ได้แล้ว ง่ายกว่าเก็บผักล้างเพราะต้องเก็บต้องเด็ดต้องล้าง ที่ว่าง่ายก็แม่ทำนี่ อืมวันนี้ฉันจะทำเองบ้าง ช่วงนี้ห่างบ้านมานานแล้วเริ่มคิดถึงอาหารฝีมือแม่ ทำเมนูนี้ละกัน หัวปี๋เฮ๋บ (ทอดมันหัวปลี) กินเล่นหรือกินกับข้าวก็ได้ แต่เอตำพริกแกงใส่อะไรที่ว่าง่ายๆ จำไม่ได้ว่าใส่อะไรบ้าง ก็ต้องโทรถามอาจารย์แม่ที่รัก แม่ไม่เพียงบอกเครื่องตำพริกแกงมีอะไรบ้างแต่บอกวิธีทำไปด้วย แต่จับเสียงแล้วรู้สึกถึงหัวใจพองโตของแม่ที่ได้ยินเสียงลูกถามสูตรอาหาร ไม่ละทิ้งอาหารเมืองๆ แต่แม่คงดีใจมากกว่านี้ถ้าฉันจำได้ทุกเมนูและทำได้อร่อยเหมือนแม่ เอาน่าอนาคตฉันทำบ่อยๆ มีชั่วโมงบินสูงๆ เหมือนแม่อาจจะอร่อยสูสีกับแม่ก็ได้ ชีวิตยังมีความหวังตราบใดยังมีมือถือสากกับตะหลิวได้

หัวปลี หลายคนไม่รู้ว่านำมาทำอะไรได้บ้าง นอกจากกินเป็นผักเคียงผัดไทย ขนมจีน คราวที่แล้วแนะนำให้นำมาแกงเลียงง่ายๆ แล้ว คราวนี้ทำเป็นทอดมันหัวปลี ง่ายๆ เช่นกัน ซึ่งบ้านฉันเรียกว่าทอดหัวปี๋เฮ๋บ คำว่าเฮ๋บ หมายถึงการคลุกพริกแกงกับวัตถุดิบหลักแล้วนำไปทอด เช่น ทอดมันปลา เรียกว่า ป๋าเฮ๋บ รู้จักภาษากำเมืองวันละนิด ปกติบ้านฉันถ้าทำทอดมันหัวปลี จะนำใบเล็บครุฑมาทอดใส่พริกแกงแบบเดียวกันด้วย แต่วันนี้หาใบเล็บครุฑไม่ได้ เลยได้กินเฉพาะหัวปี๋เฮ๋บ ทอดกรอบๆ กินกะข้าวสวยร้อนหรือกินเล่นๆ ก็อร่อยเหมือนกัน

หัวปลีเป็นผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งที่ปลอดภัยสูงราคาถูก หากใครปลูกกล้วยก็ไม่ต้องซื้อ แถมมีประโยชน์สูงช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยเฉพาะในกลุ่มที่เกิดแผลในกระเพาะอาหารจากการดื่มสุราอยู่เป็นประจำ รสฝาดช่วยสมานแผลได้ดี มีฤทธิ์เย็นแก้ร้อนใน มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี และกากใยสูง 

วันนี้ฉันต้องหาหัวปลีจากตลาด หัวละ 10 บาท ถูกมากเมื่อเทียบผักชนิดอื่น หัวเดียวก็เหลือเฟือสำหรับเมนูนี้ เลือกที่ยังสดๆ แกะเปลือกสีม่วงออกจนเหลือเปลือกสีขาว ใช้มีดหั่นตามขวางบางๆ ใส่กระมังที่ผสมน้ำกับมะนาวเพื่อให้หัวปลีสีสวยไม่ดำ พริกแกงใส่ทอดมันฉันไม่แน่ใจว่าสูตรเหมือนที่อื่นหรือเปล่า มาลองทำกันเลยค่ะ

haupleetod2

วิธีทำ  

1.โขลกพริกแห้ง 5 เมล็ด กระเทียม 4 กลีบ ตะไคร้ซอย 1 หัว กระชาย 5 หัว ขมิ้น 1 หัว กะปิแกง ½ ช้อนชา (ปริมาณขึ้นกับความเค็มของกะปิแต่ละเจ้า) โขลกให้ละเอียด

2. นำพริกแกงคลุกกับแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งโกกิ 100 กรัม ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย นำหัวปลี 1 หัวที่หั่นฝอยเตรียมไว้มาคลุกรวมกัน ใส่ใบมะกรูดหั่นฝอยลงไปคลุกให้เข้ากัน 

3. ตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมัน พอน้ำมันร้อน ขยุ้มหัวปลีที่คลุกแล้วเป็นก้อนเล็กไม่หนามากลงไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักพักให้สะเด็ดน้ำมัน กินกับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวเหนียวก็ข้าวกันดี หรือจะนั่งกินเล่นๆ 

แม่ฝากบอก

แป้งโกกิทอดแล้วกรอบแต่เมื่อเย็นแล้วจะแข็งเหนียว แต่แป้งข้าวเจ้าเย็นแล้วอุ่นจะไม่แข็งเหนียวเหมือนแป้งโกกิ ทางที่ดีก็กินตอนทอดเสร็จใหม่ๆ จะกรอบอร่อย กินไม่หมดก็แบ่งๆ เพื่อนบ้านได้ชิมของอร่อยๆ ฟื้นฟูวัฒนธรรมการแบ่งปันบ้านใกล้เรือนเคียง เป็นการกินเปลี่ยนโลก เปลี่ยนสังคมได้อีกวิธีหนึ่ง

Relate Post