“ประวัติศาสตร์กินได้”

“…อาหารคือรากแห่งอารยธรรมทั้งปวง ปราศจากอาหาร อารยธรรมไม่อาจเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อมนุษย์วิวัฒนาการขึ้นมาได้เพราะอาหารแล้ว ชั้นต่อมาเราจะพบว่ามนุษย์ได้นำอาหารมาใช้ในแง่มุมอื่นๆ อย่างกว้างขวางมาก เช่น ใช้เป็นเครื่องมือทางการทหาร เครื่องมือแห่งการต่อสู้ทางอุดมการณ์ หรือแม้กระทั่งเครื่องมือในการโกหกหลอกลวงในระดับชาติและระดับโลก พูดอีกอย่างหนึ่งได้ว่า มนุษย์ได้ใช้อาหารในการทำลายกันและกันอย่างสาหัสด้วย

ประวัติศาสตร์ที่ปรากฎอยู่ในหนังสือเล่มนี้จึงไม่ใช่ประวัติศาสตร์แข็งกระด้างที่เต็มไปด้วยตัวเลขและสถิติ แต่เล่าถึงเรื่องที่เกี่ยวพันกับเรา ทุกเช้า กลางวัน และเย็น นั่นคือเรื่องของอาหาร แต่เป็นอาหารที่โยงใยไปถึงสังคม การเมือง ศาสนา ปรัชญา เศรษฐศาสตร์ และหลายครั้งเป็นแง่มุมง่ายๆ ที่เราคิดไม่ถึง

สำหรับผล การอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้บาปตะกละไม่เป็นเพียงบาปส่วนตัวอีกต่อไป แต่บาปตะกละสอนเราถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษยชาติ และเป็นสิ่งหนึ่งที่บอกใบ้ว่า เพราะอะไรมนุษย์ถึงได้วิวัฒนาการมาได้ถึงทุกวันนี้ เรื่องส่วนตัวแท้ๆ อย่างการหยิบอาหารใส่ปาก จริงๆ แล้วกลับเป็นเรื่องสาธารณะอย่างยิ่งด้วยในเวลาเดียวกัน”

โตมร ศุขปรีชา

ตามไปอ่านตัวอย่างหนังสือได้ที่นี่ http://openworlds.in.th/books/an-edible-history-of-humanity-1/
ที่มา: สำนักพิมพ์ openworlds http://openworlds.in.th/books/an-edible-history-of-humanity-1/

***

“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์
การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่
ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”

Relate Post