ข้าวถุงแพง! ปัญหาที่ไม่จบ

ถึงเวลาที่ผู้บริโภคข้าวถุงต้องแบกรับภาระอีกครั้ง? เมื่อผู้ประกอบการผู้ผลิตข้าวถุงส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่า? จะมีการปรับราคาข้าวถุงขึ้นอีก? 10-20? บาท? จากเดิมที่ราคาข้าวบรรจุถุงขนาด? 5? กิโลกรัม? แต่ละยี่ห้อมีราคาอยู่ที่ถุงละประมาณ? 170-180? บาท? โดยอ้างว่าต้นทุนในจากการซื้อข้าวสารที่เป็นวัตถุดิบหลักมีราคาสูงขึ้น? จาก การที่รัฐบาลมีการเก็บผลผลิตข้าวจากโครงการรับจำนำไว้ในสต็อกถึง? 5? ล้านตัน? และไม่มีนโยบายที่จะมีการระบายข้าวออกมาจากสต็อกอย่างชัดเจน? ทำให้ราคาข้าวในตลาดผันผวน? ทั้งผู้ซื้อเพื่อผลิตข้าวถุง? และผู้ซื้อข้าวเพื่อการส่งออก? รุมแย่งซื้อข้าวในตลาดจนราคาปรับสูงขึ้น

หากจะพิจารณาแค่เหตุผลดังกล่าว? ก็ไม่น่าที่จะทำให้ต้นทุนข้าวในการซื้อมาเพื่อบรรจุข้าวถุงมีต้นทุนที่ปรับ สูงขึ้นมากถึง? 10-20? บาทต่อถุงได้? เพราะอย่าลืมว่าผลผลิตข้าวในประเทศมีถึงปีละเกือบ? 30? ล้านตัน? และเพียงพอต่อความต้องการบริโภคในประเทศที่แต่ละปีบริโภคไม่เกิน? 10? ล้านตันด้วยซ้ำ

ปริมาณผลผลิตกับความต้องการน่าจะเพียงพอสำหรับผู้ผลิตที่จะมีการซื้อข้าว เพื่อนำมาบรรจุถุงจำหน่ายในราคาที่ไม่ต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ

แต่การอ้างว่าข้าวที่อยู่ในสต็อกรัฐ? 5? ล้านตัน? ทำให้กลไกตลาดผิดเพี้ยน? ทั้งที่หากมีการระบายข้าวในสต็อกรัฐจริง? การระบายข้าวทุกครั้งก็เพื่อการส่งออกเท่านั้น? ไม่เกี่ยวอะไรกับผู้ผลิต ข้าวเพื่อบรรจุข้าวถุงขายในประเทศเลย

หรือจะระบุว่าหากรัฐระบายข้าวออกมา?? ผู้ส่งออกหันมารุมซื้อข้าวในสต็อกรัฐบาลกันหมด?? ข้าวในตลาดปกติราคาจะถูกลง? เพราะผู้ผลิตข้าวถุงไม่ต้องรุมแย่งซื้อข้าวในระบบกับผู้ส่งออกงั้นหรือ? ทั้งที่ข้าวในระบบมีมากกว่าในสต็อกรัฐกว่าเท่าตัว

งานนี้จึงน่าจะเป็นการเล่นเกมของพ่อค้าข้าวไทยซะมากกว่า? เป็นเกมที่จะจี้เอาของถูกจากการประมูลข้าวในสต็อกรัฐบาล? หรือเป็นเกมจิตวิทยาปั่นความต้องการผู้บริโภคให้แห่ซื้อข้าวกักตุน? เพราะเกรงว่าข้าวจะมีราคาแพง

ทั้งที่จริงแล้ว? ปัญหาราคาข้าวถุงในประเทศที่แพงขึ้น? น่าจะมาจากสงครามการเก็บค่าหัวคิวการวางสินค้าระหว่างผู้ผลิตข้าวถุงยี่ห้อ ต่างๆ? กับห้างโมเดิร์นเทรด? ที่มีกันมาอย่างยาวนานมากกว่า

expansive_rice2

ซึ่งก็เข้าใจที่ผู้ผลิตข้าวถุงไม่นำเรื่องนี้มาเป็นเหตุผลอันดับต้นๆ? ในการ ส่งสัญญาณว่าจะปรับราคาข้าวถุงขึ้น? เพราะอย่างว่า? ช่องทางการขายที่สะดวกและได้ยอดการจำหน่ายสูงผ่านห้างโมเดิร์นเทรดที่ตรงกับ พฤติกรรมกลุ่มผู้บริโภคที่มีการซื้อข้าวถุงมากที่สุด? มันก็เป็นการคุ้มค่ามากกว่าที่จะวางขายกับร้านค้าปลีกชุมชน? หรือร้านโชห่วยที่กลุ่มผู้บริโภคนิยมซื้อข้าวสารแบ่งขายจากกระสอบมากกว่า

เมื่อเป็นอย่างนั้น? ผู้ผลิตข้าวถุงรายไหนละจะยอมเสี่ยงลงไปบู๊กับเจ้าของโมเดิร์นเทรดขั้นแตก หัก? เมื่อหาทางออกไม่ได้? สิ่งที่ดีที่สุดหนีไม่พ้นการผลักภาระให้กับผู้ บริโภคโดยการขึ้นราคาจำหน่ายซะ

ปัจจุบันมีรายงานว่าห้างโมเดิร์นเทรดหลายแห่งได้มีการปรับเงื่อนไขการ จำหน่ายข้าวถุง จนต้นทุนของผู้ผลิตและราคาขายปลีกสูงขึ้น? เช่น? เก็บค่าแรกเข้า? (เอนทรานซ์ฟี)? เพิ่มสินค้าละ? 1? ล้านบาท? จากเดิมไม่กี่แสนบาท? เพิ่มค่าลงโฆษณาในแผ่นพับ? (ค่าเมล์)? สินค้าละ? 5? แสน-1? ล้านบาท? หักค่าธรรมเนียมจากผู้ผลิตในการส่งข้าวถุงไปขาย? (แบ็ก? มาร์จิน)? 1-2%? รวมเป็น? 5-10%? และยังบวกส่วนต่างจากการวางจำหน่าย? (ฟรอนท์? มาร์จิน)? จาก? 6%? เป็น? 10%

เฉลี่ยแล้วต้นทุนการผลิตสูงขึ้น? 10-15? บาทต่อการผลิตต่อถุง


งานนี้? กรมการค้าภายในต้องออกมาเคลียร์สิ่งที่เกิดขึ้น? ในฐานะที่ต้องดูแลราคาสินค้าให้มีความเป็นธรรม? ดูแลระบบการจำหน่ายสินค้า ให้เป็นไปตามกลไกตลาด? ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง? ซึ่งมีกฎหมายอะไรที่เกี่ยวข้องกี่อย่างก็ต้องงัดมาใช้? เจรจาหารือกันให้ชัดเจน? ให้รู้ถึงสาเหตุความเป็นจริง?? ไม่ใช่ปล่อยให้พ่อค้าออกมาพ่นน้ำลายเป็นรายวัน? อ้างสาเหตุนั่น? โน่น?? นี่? ผู้บริโภครู้ตัวอีกที? ราคาสินค้าขึ้นไปแล้ว? โดยที่กรมการค้าภายในได้แค่นั่งดูตาปริบๆ

ซึ่งวันที่? 30? ก.ค.นี้? จะมีการหารือกัน? ซึ่งภาวนาว่าจะได้ทางออกที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม

ส่วนประเภทที่ว่า? ไม่ทันได้แก้ปัญหาอะไร? แต่รัฐนำข้าวในสต็อกออกมาผลิตข้าวถุงราคาถูกออกจำหน่ายนั้น? หากจะทำก็ทำได้? แต่ทำแล้วได้คุ้มเสียหรือไม่? ทำแล้วผู้บริโภคได้สินค้าทั่วถึงหรือเปล่า? อย่าลืมว่าปีที่แล้ว? ช่วงนายมิ่งขวัญ? แสงสุวรรณ? เป็นรัฐมนตรีพาณิชย์? มีการทำข้าวถุงธงฟ้าออกมาขาย?? ปรากฏว่าได้ผลตอบรับแบบถล่มทลาย? ท่ามกลางเสียงก่นด่าสารพัด?? จนต้องเบรกโครงการกลางคัน

สุดท้ายไม่ว่าระบบกลไกราคาข้าวจะสูงหรือต่ำอย่างไร? คนที่รับภาระหนักที่สุดยังคงเป็นต้นทางของระบบ? คือชาวนาผู้ปลูกข้าว? และปลายทางของระบบ? คือ? ผู้บริโภคที่ต้องซื้อข้าวกิน ต้องรับกรรมดักดาน.

ที่มา : ไทยโพสต์ 29 ก.ค. 52

Relate Post