เย็น 22 เม.ย.
ออกมางานเปิดตัวครัวใบโหนดที่สิงหนคร และไปส่งน้องกระเป๋าขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพฯ พวกเราก็มุ่งไปสู่เกาะหมาก อ.ปากพยูน จ.พัทลุง คืนนั้นเรานอนที่นั่น
ตุ๊กกี้โทรหาพี่แดง เจ้าของบ้าน ว่าพวกเราจะไปขอพักคืนหนึ่ง มีพี่เก๋เป็น พขร. และทำหน้าที่เป็นหัวหน้ากองกำลัง ตุนเสียงอาหารไปถึงล่วงหน้าแล้ว
ขวัญคลำทางไปในช่วงที่ตะวันกำลัง จะตก ตะวันตกใส่อะไรสวยกว่ากัน ระหว่าง หน้าคาบ้านเรือน ป่ายาง นาข้าว นากุ้งร้าง ที่โล่งเวิ้งว้าง และผืนน้ำ
ไม่ว่าตะวันจะตกแบบไหน ก็ไม่เคยทิ้งร่องรอยความสูญเสียใดๆ
จะมีให้ไว้คือแสงเหลือบเรือง ที่หลุบลู่ลง จนกลายเป็นความมืด
ไปถึงที่นั่นก็มืดแล้ว
กุ้งหัวแข็งที่อบแล้ววางรอกับ น้ำชุบหยำ ที่ใช้มันกุ้งหยำกับพริกขี้หนู หอม และมะม่วงซอย ฝีมือน้องมด ที่ตอนการกินข้าวมื้อค่ำวันนี้ฉันตักคลุกข้าวกินไปชมไป มีน้ำแกงต้มปลาขี้เกะที่พี่แดงยกมาชามใหญ่ไว้ซดคล่องๆ คอ
พี่แดงเจ้าบ้านแนะให้กินทั้งตัว มีแต่กรีที่หัวเท่านั้นที่แข็งกินไม่ได้
“ตะวันตกกลางเลสาบสวยมากๆ” คนมาถึงก่อนบอก
กระนั้นทุกคนก็เพลินกับการชมและ เตรียมทำกับข้าวสำหรับมื้อ ค่ำ ภาพความทรงจำครั้งแรกหลังบ้านพี่ แดงกับดวงอาทิตย์จึงไม่ได้ถูกบันทึกไว้ให้คนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมตรงนั้นได้รับรู้!
เช้าแล้ว พระอาทิตย์ขึ้นไปแล้ว
แสงที่สะท้อนฟ้าบนผืนน้ำ
นั่งดูแสงอาทิตย์ที่ค่อยๆ เปลี่ยนไปบนผืนฟ้าและผืนน้ำ เห็นเรือลำเล็กๆ ลอยอยู่กับไซนั่งตรงข้างหน้า
ไซนั่ง ที่เจ้าของกำลังสำรวจความสมบูรณ์ของทะเลชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา
พี่แดง สุภาภรณ์ พรรณาราย เจ้าของบ้านที่เราไปนอน เป็นประธานกลุ่มออมทรัพย์บ้านช่องฟืน ต.เกาะหมาก
กุ้งก้ามกรามถ่ายคู่กับส้อม ที่พี่แดงว่าขนาดนี้ที่นี่เรียกลูกกุ้งอ่ะ
พี่แดงว่ามันเป็นเครื่องมือหา กินที่ใช้ดักสัตว์น้ำสารพัดชนิด แต่ถ้าเป็นกุ้งก้ามกรามซึ่งเป็น ของดีขึ้นชื่อของที่นี่จะต้อง ใช้ซั้งล่อกุ้ง เท่านั้น
เมื่อคืนพี่แดงว่า ที่นี่มีธนาคารกุ้งที่ชาวบ้านช่วยกันทำ แต่กระนั้น หน้าแล้งที่มาไวกว่าที่คาดกลับ ทำให้กุ้งลดจำนวนลงอย่างเห็น ได้ชัด
พี่เก๋ตื่นแล้ว… แกชวนพวกเราไปตลาดสดของเกาะหมาก ขนาดพี่แดงว่ามันแล้งและสัตว์น้ำ น้อยลง เราก็ยังตื่นตาตื่นใจกับสารพัด อาหารอันอุดมของที่นี่อยู่ดี
แผงขายอาหารสารพัดชนิดจากเลสาบ – เป็นช่วงทะเลสาบตอนกลางของทะเลสาบสงขลา ซึ่งเป็นน้ำกร่อย
มีแบบนี้เยอะ หลายร้าน ของสดๆ จากเลสาบ
พี่เก๋ซื้อกุ้งหัวแข็งสดๆ หลาย กก. แกกะเอาไปนึ่งที่บ้านพี่แดงแล้วแพ็คใส่กล่องน้ำแข็งไปกินที่กรุงเทพฯ
กุ้งสดๆ จากแหล่งธรรมชาติที่นี่ขายแค่ 3 กก. 100 บ. เท่านั้น!
ที่ตลาดสดมีของให้เราซื้อเอากลับมาบ้านได้ เยอะแยะ ทั้งกุ้งหวาน กุ้งแก้ว ปลาเค็มตากแห้งสารพัดชนิด
ท่าน้ำหลังตลาด จุดบรรจบของอีกเส้นทางสัญจรของคนซื้อ คนขาย และคนหาปลาของชุมชนที่นี่
เดินจนทั่วตลาดแล้วก็กลับมาซื้อ กับแม่ค้าเจ้านี้
พอเรากลับมาหาแกอีกเที่ยว แกว่า “ลดให้อีก 10 บาท” เบาๆ คราวนี้เลยได้ลูกค้าเพิ่มนอกเหนือจากฉันอีก 2 คน อิอิ
แกว่าแกมาขายทุกวัน เอาจากที่บ้านมาขายเอง เลยมีไม่เยอะ
อ๊ะอ๋าา… ตาซอกแซกเหลือเห็นกุ้งแปลกๆ “อะไรอ่ะป้า”
“อ๋อ… กุ้งส้ม” แกพูดถนอมคำสำเนียงท้องถิ่น
โธ่! มีแค่ 5 ถุงเอง
“ป้าทำเอง” แกตอบเมื่อฉันซัก
“กุ้งสดนี่แหละ” แกตอบอีกพร้อมชี้ไปที่ถาดข้างๆ ตัว
“วันไหนเหลือขาย ก็ตัดหัวมันออก แล้วก็ทำใันวันนั้นเลย”
“ถุงละ 10 บาท”
“เอาหมดนั้นเลยป้า”
ลั้นลา… ลั้นลา…
เคยรู้มาว่า ที่ อ.ปราสาท จ.บุรีรัมย์ มีกุ้งจ่อมขึ้นชื่อ
ครั้นไปสุรินทร์ คนภาคกลางที่ไปอยู่ที่นั่นเกือบ 20 ปี ไม่ยอมน้อยหน้า พาเราไปหากุ้งจ่อมสุรินทร์แบบอ ร่อยไม่แพ้ใครมาให้เราชิม
ไปที่บ้านดอน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณ ชาวไทพวนที่นั่นบอกของป้าอร่อยกว่า
ฉันว่าที่ไหนก็อร่อย ที่ตลาดหัวรอ อยุธยา เจ้านั้นฉันได้แวะก็จะซื้อมากิน ที่ตลาดสด ตลาดนัดหลายแห่งในสทิงพระก็เคย เห็น
ที่นี่ ก็ต้องลอง … ตัวกุ้งใหญ่กว่าใครใช่ว่าจะได้เปรียบเชิงรสชาติและเนื้อสัมผัส
งานนี้ละ… นอกจากฉันแล้ว …. คนยอมเป็นเหยื่อเมนูนี้มีอยู่แล้วแน่นอน!
ที่มา : http://www.facebook.com/note.php?note_id=115486475153972