“ปู”สั่งศึกษายกระดับอาหารปิ่นโตเทียบเท่าเบนโตะของญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมูลค่า ฝันขายโอทอปบนรถไฟไฮสปีด “ทนุศักดิ์” เตรียมปูพรมโชว์ผลงาน 1 ปี25-26 ส.ค.
วันนี้ ( 21 ส.ค.) น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในที่ประชุมครม.ว่า ต้องการให้ครม.หาโอกาสไปรับชมการจัดงานแสดงสินค้าโอทอป มิดเยียร์ 2012 ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-25 ส.ค.นี้ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้นมาก โดยจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าโอทอป ที่มีการแบ่งกลุ่มสินค้าไว้อย่างชัดเจน เช่น กลุ่มเสื้อผ้า กลุ่มวัสดุที่ทำด้วยกระดาษ รวมทั้งการจัดแสดงสินค้าได้มุ่งเน้นไปที่สินค้าโอทอปในระดับ 3 ดาว
ทั้งนี้ยังได้มอบหมายให้ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบหรือทีซีดีซี ได้ไปคิดรูปแบบในเชิงจินตนาการว่าในอนาคตเมื่อไทยมีรถไฟฟ้าความเร็วสูงแล้วจะสามารถนำสินค้าโอทอปไปวางขายในรถไฟฟ้าความเร็วสูงได้อย่างไร และกรณีที่ไทยมี “ปิ่นโต” แล้วจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นเหมือนกับกล่องข้าว “เบนโตะ” ของญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับอาหารไทย รวมทั้งจะหารือร่วมกับนายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกฯ และรมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อจัดบรรยากาศการขายสินค้าโอทอปบนรถไฟให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยตั้งเป้าหมายที่สถานีรถไฟหัวหินเป็นแห่งแรก
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า ทีซีดีซีได้ร่วมกับสำนักนายกรัฐมนตรี จัดแสดงอาหารไทยบรรจุกล่อง ในชื่อ “Thai Pinto” ในงานโอทอป มิดเยียร์ ด้วย ซึ่งเป็นการนำวัตถุดิบที่มีชื่อเสียงและเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นมาปรุงให้กลายเป็นอาหารพร้อมรับประทานในบรรจุภัณฑ์แบบใหม่ ที่ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้คงความอร่อยและสะอาดปลอดภัยในระหว่างการขนส่ง เหมาะสำหรับเป็นอาหารกล่องระหว่างการเดินทางคล้ายกับข้าวกล่องเบนโตะของปซึ่งประเทศญี่ปุ่นที่มักจะอยู่คู่กับการเดินทางด้วยรถไฟด้วย
ด้านนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง แถลงว่า ระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.นี้ รัฐบาลจะจัดงาน “รัฐบาลพบประชาชน ทุนเพื่อคุณภาพชีวิต” ขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ เพื่อเผยแพร่ผลงานของรัฐบาลในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา รวม 11 โครงการเพื่อให้ประชาชนเข้าใจและเข้าถึงได้โดยเฉพาะรายละเอียดของกองทุนต่าง ๆ ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น ทั้ง กองทุนหมู่บ้าน กองทุนสุขภาพ กองทุนตั้งตัวได้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี เป็นต้น มาเผยแพร่เพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจและสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนของกองทุน ฯ เหล่านี้ได้อย่างถูกต้องรวมทั้งมีการเปิดตัวทั้งกองทุนใหม่และกองทุนเก่า
ทั้งนี้ในส่วนของกรุงเทพฯจะจัดงานที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยมีนายกฯ เป็นประธานในพิธีเปิดงานและมีครม.พร้อมผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานรัฐและเอกชนร่วมเข้าร่วมพิธีเปิดงานด้วย แม้ว่าที่ผ่านมานายกฯได้ชี้แจงผลงานรัฐบาลผ่านรายการรัฐบาลยิ่งลักษณ์พบประชาชนเป็นประจำทุกวันเสาร์แล้ว แต่กิจกรรมนี้จะเป็นตัวเสริมให้ประชาชนในแต่ละภูมิภาคได้รับทราบและเห็นผลงานที่ชัดเจนด้วยตัวเอง รวมถึงเปิดโอกาสให้ได้มีส่วนร่วมกับนโยบายในด้านอื่น ๆ ในอนาคตอีกด้วย
นายทนุศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ภายในงานยังมีการจำหน่ายสินค้าธงฟ้า และการเปิดจองรถยนต์จากผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการรถคันแรก ที่ขอย้ำว่ารัฐบาลพร้อมรับได้ทั้งหมดแม้จะมีประชาชนมาขอใช้สิทธิ์รถคันแรกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวก็ตาม ซึ่งมากกว่า 5 แสนคันรัฐบาลก็พร้อมดำเนินการต่อไป ซึ่งขอชี้แจงเพิ่มเติมว่าผู้ที่จองรถคันแรกตามเงื่อนไขแล้วต้องนำไปยื่นเอกสารต่อกรมสรรพสามิตและเมื่อรับรถแล้วต้องนำไปตรวจสอบรายละเอียดเพื่อคืนเงินตามเงื่อนไขต่อไป
อย่างไรก็ตามขอยืนยันว่าในฐานะที่เป็นส.ส.จากการลงพื้นที่พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบผลการทำงานของรัฐบาล โดยเฉพาะกองทุนต่าง ๆ ที่รัฐบาลจัดตั้งขึ้น ซึ่งชาวบ้านสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในแต่ละกองทุนได้บ้างแล้ว แม้จะไม่ได้ครบทั้ง 100% ก็ตาม เพราะการดำเนินงานของแต่ละกองทุนต่างมีขั้นตอนดำเนินการเช่นกัน ขณะที่โครกงารอื่นเช่นเรื่องของพักหนี้ ก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวบ้านทั่วไปเพราะเป็นโครงการที่ได้ประโยชน์ โดยงบประมาณทั้งหมดที่ใช้จัดงานเป็นจำนวนไม่มากโดยส่วนกลางใช้งบประมาณ 7 ล้านบาท ขณะที่ต่างจังหวัดจะใช้งบประมาณจากจังหวัดๆละไม่เกิน 3-5 แสนบาทเท่านั้น
ที่มา: เดลินิวส์ วันที่ 21 สิงหาคม 2555 http://www.dailynews.co.th/businesss/150735
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”
