“วอล์ต ดิสนีย์” เจ้าของสื่อใหญ่ของสหรัฐฯ ประกาศแบนโฆษณาอาหารฟาสต์ฟู้ดทุกประเภท ทั้งในสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และอินเตอร์เน็ต
ดิสนีย์ ซึ่งเป็นเจ้าของสวนสนุกทั่วโลกหลายแห่ง รวมถึงสถานีโทรทัศน์ ยังประกาศให้มีการใช้มาตรฐานทางโภชนาการใหม่สำหรับอาหารสำหรับเด็กๆที่จำหน่ายในสวนสนุก เพื่อรับมือกับปัญหาโรคอ้วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก
ขณะที่นางมิเชล โอบามา สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯกล่าวยกย่องว่าการกระทำครั้งนี้ ถือเป็นการริเริ่มที่ดี อย่างไรก็ดี กฎใหม่นี้ จะไม่มีการบังคับใช้จนกระทั่งปี 2015 และต้องขึ้นอยู่กับว่าดิสนีย์ จำกัดความของคำว่า”อาหารขยะ”อย่างไรด้วย
บริษัทผู้ผลิตสินค้าบริโภคทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ที่ถูกมองว่าเป็นอาหารขยะ ใช้จ่ายเงินในการโฆษณาประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยพุ่งเป้าหมายไปยังเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เป็นหลัก
โดยดิสนีย์เผยว่า อาหารประเภทซีเรียล ซึ่งมีปริมาณน้ำตาลมากกว่า 10 กรัมขึ้นไปต่อหนึ่งหน่วยการบริโภค หรือให้พลังงานมากกว่า 600 แคลอรี ต่อการบริโภคหนึ่งครั้ง จะถูกสั่งห้ามไม่ให้โฆษณาเด็ดขาด ขณะที่เครื่องดื่มที่มีรสหวานหรือมีโซเดียมสูง ก็จะถูกห้ามโฆษณาเช่นกัน
ด้านนายบ็อบ อิกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดิสนีย์ เผยว่านโยบายดังกล่าวอาจมีผลกระทบต่อรายได้ของบริษัทบ้าง และเสริมว่าบริษัทเตรียมปรับและสร้างสรรค์มาตรฐานด้านโภชนาการครั้งใหม่ อาทิ อาหารสำหรับเด็กๆทุกเมนูในสวนสนุกของดิสนีย์ จะต้องลดส่วนผสมของโซเดียมลงอย่างน้อยร้อยละ 25
ผลการศึกษาล่าสุดพบว่า เกือบ 1 ใน 3 ของเด็กอเมริกัน มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือมีอาการของโรคอ้วน
ที่มา: มติชนออนไลน์ วันที่ 06 มิถุนายน 2555 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338956108&grpid=03&catid=&subcatid=
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”