“แมคโดนัลด์′ส” เชนร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังของสหรัฐฯ ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ร้านยกเลิกการใช้ “สารแอมโมเนียม ไฮดรอกไซด์” (Ammonium hydroxide) ในขั้นตอนการผลิตแฮมเบอร์เกอร์นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ สารดังกล่าว เป็นสารที่เป็นส่วนผสมในการผลิตปุ๋ยเคมี น้ำยาทำความสะอาดบ้าน หรือแม้กระทั่งระเบิด
แมคโดนัลด์′ส ปฏิเสธว่าการตัดสินใจดังกล่าวไม่ได้รับแรงกดดันมาจากการที่ “เจมี่ โอลิเวอร์” เชฟชื่อดังชาวอังกฤษออกมารณรงค์ให้ยกเลิกการใช้สารแอมโมเนียม ไฮดรอกไซด์เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ อาทิ ไก่ และวัว ในผลิตภัณฑ์อาหารทุกประเภทของสหรัฐฯ ที่วางจำหน่ายกว่าร้อยละ 70 ทั่วประเทศ และออกมายืนยันว่า บริษัทยกเลิกการใช้สารที่มีลักษณะเหมือนกาวเหนียวสีชมพู ที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถบริโภคได้และผสมสารเคมีบางชนิด เมื่อหลายเดือนก่อน
สารแอมโมเนียม ไฮดรอกไซด์ ถูกใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์น้ำยาทำความสะอาดบ้านและปุ๋ยเคมี สารดังกล่าวเป็นสารที่มีกลิ่นฉุนและติดไฟได้ และเมื่อผสมเข้ากับกรดบางชนิดแล้ว มันจะเปลี่ยนเป็นสารอลูมิเนียมไนเตรท ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานในการทำระเบิด นอกจากนั้น มันยังถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อเป็นสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ในเนื้อสัตว์ และเป็นสารที่ทำให้ขนมปังและขนมเค้กขึ้นฟู โดยกระทรวงการเกษตรสหรัฐฯจัดให้สารดังกล่าวอยู่ในประเภทสารทั่วไปที่มีความปลอดภัยในการใช้
โดยเว็บไซต์เดลีเมล์รายงานว่า การตัดสินใจของแมคโดนัลด์ครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะของเจมี โอลิเวอร์ ที่มีต่ออุตสาหกรรมด้านอาหารของสหรัฐฯ ที่รณรงค์เรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว เมื่อเขากล่าวถึงสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “โคลนสีชมพู” ในรายการโทรทัศน์ “เจมี โอลิเวอร์′ส ฟู้ด เรฟโวลูชัน” ที่เขาเห็นว่าในฐานะที่เป็นพ่อครัว เขารู้สึกตกใจมาก ที่คนเรากำลังบริโภคสิ่งที่มีราคาถูกที่สุดที่สุนัขตัวหนึ่งพอจะรับประทานได้ ที่ถูกทำให้ “ถูกปาก” มนุษย์ทั่วไป
ด้านนายทอดด์ เบคอน เจ้าหน้าอาวุโสฝ่ายซัพพลายเชนของแมคโดนัลด์′ส ออกมากล่าวว่า สารเคมีดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีก่อน การตัดสินใจดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใดโดยเฉพาะเจาะจง แต่เพื่อเป็นการสนับสนุนความพยายามในการสร้างมาตรฐานให้แก่ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ดิบของบริษัท
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการรายหนึ่งแสดงความคิดเห็นว่าการที่กระทรวงการเกษตรฯสหรัฐฯ (ยูเอสดีเอ) ระบุให้สารแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ ถูกใช้เป็นหนึ่งในส่วนประกอบของกระบวนการผลิตต่างๆ ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่ทราบว่าเมื่อใดที่สารดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในอาหารที่พวกเขาบริโภค และทางป้องกันด้วยตนเองที่ดีที่สุดคือการซื้อเนื้อสัตว์มาปรุงอาหารเองที่บ้าน หรือรับประทานอาหารที่ทำเองที่บ้านให้มากขึ้น
ที่มา: มติชนออนไลน์ วันที่ 02 กุมภาพันธ์ 2555 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1328176812&grpid=01&catid=0901
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”
