เมื่อย่างเข้าเดือนเมษาอย่างนี้ คงเป็นการเข้าสู่หน้าร้อนเต็มตัวและเป็นช่วงปิดเทอมที่แสนสนุก จำได้ว่าตอนช่วงปิดเทอมอย่างนี้แม่ผมจะพาไปอยู่กับตาที่สุรินทร์เกือบทุกปี และสิ่งที่เห็นในนาของตาทุกปีคือจะมีแตงโมมีทั้งแตงโมผลสีเข้มเปลือกหนาๆ แตงโมลูกยาวๆ (ไม่แน่ใจว่าเป็นพันธุ์อะไรนะครับ)ปลูกแซมกับแถวต้นข้าวโพดหวานข้าวโพดเทียนและแตงไทย แต่เห็นบ่อยๆ ว่าคุณตาเอาไปกินเป็นกับข้าวทุกที บางทีก็สัปปะรดปลูกริมรั้ว บางทีก็มะม่วงสุก ไปจนถึงแตงไทยหอมๆ เจ้าแตงโมเนี่ยตามความเชื่อของคนโบราณสีของเขาจะไปช่วยแต่งสีเลือดให้แดง แต่งตับ(บำรุงตับ)ให้สีแดงใสขึ้น อะไรที่มันแดงๆ ในร่างกายเนี่ยช่วยทำให้มันดีขึ้นหมด ทั้งมีน้ำและน้ำตาลอยู่มากช่วยแก้กระหายน้ำและขับปัสสาวะ
อีกกิจกรรมที่นอกเหนือจากการดูแลแปลงแตงโมก็คือ ช่วงนี้จะเป็นช่วงการวิดบ่อปลา ซึ่งจะมีทั้งปลาหมอ ปลาดุก ปลาหลด ปลากระทิง ปลาไหล ปลาช่อนตัวโตๆ ฯลฯ วิธีจับก็คือการเอาสวิงกระโดดลงบ่อโคลนนั่นแหละ ถือว่าเป็นการหมักโคลนตัวเองตั้งแต่เด็กๆ ปลาที่วิดได้ก็นำไปทำอาหารบ้าง หรือไม่ก็เอามาทำเป็นปลาตากแห้ง ปลาร้า ปลาส้ม
เจ้าปลาช่อนเนี่ยคนไทยสมัยก่อนรู้จักใช้ปลาช่อนเป็นเครื่องยามาแต่โบราณ อย่างตอนเด็กๆ ผมไม่สบายปู่จะไปทอดแห วางเบ็ดเอามาต้มแกงให้กินแก้ไข้ แกบอกว่ากินเข้าไปร่างกายจะได้สดชื่นไม่สลึมสลือ (ผมว่าสรรพคุณต้มปลาช่อนปู่นี่คล้ายสรรพคุณซุปไก่สกัดสมัยนี้นะหรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ) เกริ่นนำซะนาน วันนี้ก็จะเอาเมนูง่ายๆที่เหมาะกับอากาศในช่วงหน้าร้อนแบบนี้มากๆ นั่นคือ ปลาแห้งป่นกินกับแตงโม ครับ
ส่วนประกอบการทำปลาแห้ง
– ปลาช่อนตากแห้ง (วันนี้ขอใช้ ปลาช่อนทะเลตากแห้งจากตลาดคลองด่านแทนเนื่องจากเดินตลาดหาได้แต่ปลาช่อนดิ้นๆ อยู่เลย เลยใช้เจ้าปลาช่อนทะเลแห้งนี้แทนแต่เนื้อจะไม่ฟูเท่าเท่าปลาช่อนนาแท้ๆ หรือถ้าหาทั้งสองอย่างไม่ได้ลองใช้กุ้งแห้งตัวสวยๆ แทนได้นะครับ)
– น้ำตาลทรายแดงประมาณ 4-5 ช้อนโต๊ะ
– หอมแดง 4-5 หัว
– น้ำมันพืช(ถ้าน้ำมันหมูจะหอมกว่านะ)
– เกลือ(ในกรณีที่ปลาแห้งไม่ค่อยเค็ม)
– แตงโม หรือผลไม้ฉ่ำน้ำอย่างเช่น สับปะรด แตงไทย เมล่อน ลำไย ลิ้นจี่ ส้มโอ เหตุที่เลือกแตงโมเป็นพระเอกเพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ชาวสวนชาวไร่ปลูกแตงโมกันมากเพราะเป็นพืชทนแล้งใช้น้ำในการปลูกน้อย
วิธีการทำ
– นำปลาช่อนแห้งไปย่างจนมีกลิ่นหอมระวังอย่าให้ปลาไหม้(สำหรับคนที่ไม่มีเตาย่างแนะนำให้ใช้วิธีทอดในน้ำมันแทนแล้ววางซับน้ำมันให้หมด หรือนำปลาไปต้มก็ได้ครับ)
– นำปลาช่อนแห้งที่ได้นำไปตำด้วยครกให้ฟู (ใช้เครื่องปั่นแทนได้เช่นกัน) * ที่จริงก็สามารถนำไปจิ้มผลไม้ได้แล้วสำหรับคนใจร้อน ** ช่วงนี้ชิมเนื้อปลาด้วยนะครับว่ารสเป็นอย่างไรถ้าเค็มอาจต้องเพิ่มในส่วนของน้ำตาล ถ้าจืดอาจจะต้องเติมเกลือเพิ่ม
– ตั้งกระทะเจียวหอมแดงให้เหลืองกรอบ มีกลิ่นหอม ช้อนเอาหอมเจียวออก เทน้ำมันออกให้เหลือน้ำมันติดกระทะบางๆ
– นำปลาช่อนที่เตรียมไว้ลงไปคั่วให้กรอบ หรี่ไฟแล้วโรยน้ำตาลทรายแดงเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกันให้ออกรสหวานนำ เค็มตามหน่อยๆ และน้ำตาลต้องเป็นเม็ดอยู่ ท้ายสุดใส่หอมที่เจียวใว้ แล้วก็เคล้าให้เข้ากันดีอีกครั้ง จากนั้นก็ปิดไฟเตา (ห้ามใช้ไฟแรงเพราะจะไหม้และน้ำตาลละลายกลายเป็นคาราเมลเนื้อปลาไป)
– พักไว้ให้เย็นตักใส่ถ้วยโรยด้วยหอมเจียว ถ้าทำในปริมาณมากๆ ก็สามารถใส่โหลเก็บไว้กินได้เป็นอาทิตย์เลยครับ
– ผ่าแตงโม ปลอกผลไม้ชนิดอื่นๆ นำไปแช่เย็นๆ แล้วเวลาทานก็นำมาเคียงกับปลาแห้งที่เตรียมไว้ก็ได้ หรือจะมา เข้าสำรับกับข้าวก็ได้ หรือถ้าจะทำในงานเลี้ยงก็เอาไม้แหลมมาเสียบผลไม้เป็นไม้ก็ดูน่ากินไปอีกแบบ หรือทำเป็นค็อกเทลแบบไทยๆในงานเลี้ยงก็ได้
ปล. ปลาแห้งที่ทำสามารถนำไปกินกับข้าวเหนียวมูลได้จะกลายเป็นข้าวเหนียวมูลหน้าปลาแห้ง
สุดท้ายนี้ใครอยากได้แตงโมอินทรีย์ลองไปหาทานได้ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์นะครับ ช่วงนี้ชาวบ้านจะเอามาขายริมสองข้างทาง และจะมีงานวันแตงโมอินทรีย์ในช่วงเดือน พฤษภาคมหรือเดือนมิถุนายนครับ