เติมหน่อยอร่อยแน่ ผงชูรสกลายเป็นผงวิเศษ ช่วยเนรมิตอาหารธรรมดาๆ ให้อร่อยขึ้นได้ทันตาจริงหรือ!
จากคำโฆษณาชวนเชื่อของผงชูรสหลายยี่ห้อ ดึงดูดใจให้แม่บ้านยุคใหม่นิยมใส่ผงชูรสลงในอาหารกันมากขึ้น
แต่รู้หรือไม่ว่าในรสกลมกล่อมที่ว่านั้น ผงชูรสแฝงอันตรายที่เราคาดไม่ถึง
ผงชูรส มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า โมโนโซเดียมกลูตาเมต เป็นเกลือของ กรดกลูตามิก กรดกลูตามิกนี้เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง มีการสังเคราะห์ขึ้น เพื่อกระตุ้นประสาทการรับรสอาหารของลิ้นให้ไวขึ้นกว่าปกติเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วอาหารจะอร่อยหรือไม่ อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณการเติมผงชูรสลงในอาหารเลยแม้แต่น้อย
ผงชูรสมีส่วนประกอบหลักคือเกลือและสารเคมี ซึ่งอาจมีผลต่อร่างกายมนุษย์โดยตรง หากเกิดอาการแพ้ หรืออาจสะสมจนเป็นสาเหตุก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา เช่น โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคไต และมีผลต่อระบบประสาทกระดูก
จะดีกว่าหรือไม่ ถ้าเราในฐานะผู้บริโภค จะลดความเสี่ยงจากอันตรายที่อาจแฝงมานี้ ลองลดการใช้ผงชูรส โดยการมองหาสิ่งที่สามารถทดแทนผงชูรสได้ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงกว่า น่าจะเป็นทางออกที่ดีของผู้รักสุขภาพทุกคน
เสาร์นี้ทุ่งแสงตะวันพา บุกแดนอีสานที่จ.มหาสารคาม ตามหาสูตรผงนัวรสแซบ ที่คิดค้นขึ้นใช้ทดแทนผงชูรส
แม่ประดง แสนแก้ว แม่บ้านชาวบ้านโนนทองโนนธรรม อ.บรบือ จ.มหาสาร คาม คือเจ้าของสูตรผงนัวรสแซบนี้
แม่ประดง เล่าว่า ตนเองได้ลดการใช้ผงชูรส จนกระทั่งเลิกใช้ผงชูรสได้เด็ดขาดมานานแล้ว โดยหันมาใช้ผงนัวที่ทำจากสมุนไพรพื้นบ้าน นำมาใส่อาหารให้รสอร่อยและมีประโยชน์ต่อร่างกายแทน คนในครอบครัวพากันติดใจในอาหารอีสานพื้นบ้านฝีมือแม่ประดง
ยืน ยันได้จากเสียงหลานชาย น้องอั๋ง ด.ช.ชัยณรงค์ รัตนพล
“ผงนัวทำจากสมุนไพร กินเข้าไปแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรง”
ไม่รอช้า เราจะไปเรียนรู้สูตรการทำผงนัวของแม่ประดงกัน ทุ่งแสงตะวันตามติดสองยายหลาน ไปเก็บหาสมุนไพร ผักกินได้ริมรั้วอย่างผักแป้น ผักโขม ใบหม่อน ใบน้อยหน่า ฯลฯ ส่วนใหญ่ไม่ต้องซื้อหาให้เสียสตางค์และยุ่งยาก แถมยังให้รสหวาน เปรี้ยว กลมกล่อมแบบธรรมชาติ นำมาทำผงนัว ใส่ลงในอาหารอีสานแซบๆ ได้อย่างสนิทใจว่าจะไม่เกิดโทษแก่ร่างกายแน่นอน
เมื่อเลือกพืชผักสมุนไพรได้แล้ว นำไปสู่ขั้นตอนวิธีการทำผงนัวรสแซบ ตามสูตรของแม่ประดง
เริ่มจากนำผักทั้งหมดมาซอยให้ละเอียด นำมาตำผสมกับข้าวเบือ ปั้นเป็นแผ่น แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง ก่อนนำมาตำให้เป็นผงละเอียด รับประทานได้ตลอดทั้งปี
แม่ประดงยืนยันข้อดีของผงนัวที่ครองใจแม่บ้านได้มากกว่าผงชูรส และเชิญชวนให้ปรับเปลี่ยนวิธีการปรุงอาหารด้วยผงนัวว่า
“คนที่ใช้ผง ชูรสอยู่ ถ้าเลิกได้ก็อยากให้เลิก สุขภาพจะดี มีกำลัง ไม่ต้องเสียสตางค์ไปซื้อหา”
จากผักหลากรสกลายมาเป็นผงปรุงอาหารรสแซบ มากสรรพคุณด้านสมุนไพร ใครที่กำลังใส่ใจสุขภาพหรือกำลังมองหาวิธีการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร ที่เจือด้วยผงชูรสที่มีพิษร้าย การทำผงนัวขึ้นใช้เองดังตัวอย่างของแม่ประดงนี้น่าสนใจมากทีเดียว
ตามไปดูวิธีการและแนวทางการปรับเปลี่ยนวิถีการบริโภคที่หันกลับสู่ธรรมชาติ และใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น กับสองยายหลานที่มหาสารคาม อาหารที่ปรุงจากผงนัวจะแซบจนต้องยกนิ้วให้ และทำให้คนรับประทานแข็งแรงสุขภาพดีอย่างไร ในรายการทุ่งแสงตะวัน ตอน สมุนไพรพานัว ในวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. เวลา 06.25 น. ช่อง 3 www.payai.com
ที่มา: คอลัมน์ สดจากเยาวชน ภัทรภร ยอดนครจง
