เมื่อก่อนพอฝนเริ่มลงไผ่ที่เลี้ยงไว้หน้าบ้านกอเดียวก็ทยอยแทงหน่อมาให้เรากิน แค่จะแกงกินครัวเดียวไม่ต้องเสียแรงขึ้นเขาด้วยซ้ำไป มิหนำลุง ป้า น้า อา บ้านใกล้ ยังได้มาหักไปแกงอีกด้วย แต่ถ้าอยากมีหน่อไม้ส้ม หรือหน่อไม้อัดเอาไว้กินยามแล้ง ก็ต้องโน่นแหละบนเขา
ส่วนกอไผ่เลี้ยงหน้าบ้านฉันต้องได้แกงก่อนใครในฝนนั้น จ้องอยู่ตั้งแต่เริ่มแทงหน่อขึ้นมา รบเร้าแม่ว่าแกงได้รึยัง แม่ให้รอจนมันยาวออกมาสักครึ่งแข้ง จะได้เนื้อมากหน่อย แค่ 2-3 หน่อก็ได้แกงเปอะหน่อไม้หม้อเขื่อง ตักมากินเล่นๆ เป็นชามแม่ก็ไม่หวงด้วยไม่ใช่ต้องซื้อหาสิ้นเปลืองเงินทอง
อยู่กรุงเทพฯ แกงเปอะนั้นหากินง่ายฉันเห็นว่ามีขายตามตลาดนัดแทบจะตลอดปี แต่รสอาจจะไม่ถูกปากนัก น้ำแกงก็ใสไปไม่ถูกใจมือคั้นน้ำหญ้านางอย่างฉัน เมื่อเรา(แม่กับลูกสาว)ตกลงกันได้ว่าจะแกงเปอะหน่อไม้ แม่จะจัดการหักหน่อไม้มาปอกและเหลาๆ ซอยๆ ส่วนฉันมีหน้าที่ไปเก็บใบย่านางข้างรั้วสัก 30-40 ใบ เลือกที่ไม่อ่อนไม่แก่เกินไปจะคั้นง่าย ใบย่านางสดๆ เมื่อคั้นแล้วไม่ใช่จะเขียวข้นอย่างเดียวแต่จะมีความหนืดๆ ลื่นๆ ด้วย จากนั้นแม่ก็จะสั่งให้เด็ดพริก ปอกหอมแดง ซอยตระไคร้ ใส่ครก ตำๆๆ แม่จะเป็นคนลงมือแกงเอง(ด้วยปาก) ตั้งแต่ ให้ฉันเอาหน่อไม้ต้มเทน้ำทิ้งไปก่อน แล้วค่อยใส่น้ำย่านางลงไป ใส่เครื่องแกงที่ตำไว้ ผักขาหรือผักชะอม ก็ไปเด็ดมาจากข้างรั้ว ใส่ตามลงไป ปลาร้าก็อยู่ในไหตักมาใส่แม่ให้สิทธิในการปรุงรสตามที่ฉันชอบเพียงแต่จะคอยชิมแล้วบอกว่าอร่อยเป็นการยืนยันว่า กินได้ จนสุดท้ายคือใบแมงลักเป็นอันเรียบร้อย ยกลงจากเตา
วันก่อนฉันอยากกินแกงเปอะที่ทำเอง จัดแจงออกไปตลาด เลือกซื้อหน่อไม้ไผ่ตงหน่อเขื่อง 2 หน่อ (แต่แกงไปหน่อเดียว) แม่ค้าขายหน่อไม้มีทางเลือกให้สองทางคือแบบ กก.ละ 30 บาท และกก.ละ 40 บาท ทีแรกฉันก็งงว่าต่างกันยังไงนอกจากชนิดแรกหน่อสีขาวสะอาดกว่า ฝ่ายแม่ค้าจึงว่าอาจจะแช่อะไรที่ฟอกให้ขาวมาก็ได้ แต่อย่างหลังเนี่ยมาจากบ้านนอกโน่น ฉันเอาอย่างหลัง ย่านาง 2 กำ ความจริงแบบที่เป็นน้ำแล้วก็มีแต่จากประสบการณ์มันจะจางไป ผักชะอม 2 กำน้อยๆ เห็ดขอน 2 ขีด แมงลัก 1 กำ พอดีสายตาไปสะดุดที่ดอกกระเจียวเสียบไม้เป็นแพยาวประมาณ 1 ไม้บรรทัด ซื้อมาด้วย 1 แพ พอแกงเสร็จสมาชิกต่างยืนยันว่าดอกกระเจียวเด็ดมาก เดินหาซื้อปลาร้าเจ้ากรรมขายดีจนหมดทั่วตลาดไม่มีขาย เลยได้ปลาร้าสับมาแก้ขัดใช้ได้ไม่แพ้กัน
กลับมาบ้านระหว่างที่สมาชิกภาพช่วยจัดการกับหน่อไม้ ฉันจัดแจงเด็ดใบย่านาง ล้างเอาดินออก ใส่น้ำประมาณ 1 ลิตร แล้วลงมือคั้น (ทำไมไม่ใช้ครกตำหรือโยนใส่เครื่องปั่นก็ได้) เรื่องของเรื่องคืออยากคั้น เรื่องขำๆ ตอนที่สองมือเราเลอะเทอะอยู่กับน้ำเขียวๆ ก็คือจะเกิดอาการคันโดยไม่รู้สาเหตุไม่หัวก็หลังหล่ะ ตอนเด็กๆ ฉันก็จะขอให้แม่เกาให้ ซ้ายนิด ขวาหน่อย ซึ่งก็ไม่ค่อยจะได้อย่างใจนักหรอก โชคดีที่วันก่อนไม่คัน
เด็ดชะอม แมงลัก ล้างเห็ดขอน ดอกกระเจียว ตำเครื่องแกงซึ่งก็มี หอมแดง 6-7 หัว ตะไคร้ 4 หัว พริกเข้าไป 20 เม็ดเห็นจะได้ ฉันซอยข่าอ่อนลงไปด้วย 1 หัว ช่วยให้เผ็ดร้อนทีเดียว เสร็จสรรพหน่อไม้ที่ต้มไว้ก็เดือด รินน้ำออกแล้วกรองน้ำหญ้านางลงไป ตามด้วยเครื่องแกง ใส่เกลือครึ่งช้อนโต๊ะ ปิดฝารอจนเดือด จากนั้นก็เห็ดขอนตามลงไป ดอกกระเจียว ชะอม ตามลงไป ปรุงรสอีกครั้งด้วย ปลาร้าสับ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ ปิดฝาให้เดือดอีกรอบแล้วตามด้วยแมงลัก เป็นอันเสร็จพิธี (ไม่ยักอร่อยเท่าตอนที่แม่ทำ)