แกงป่า(อย่างหรู)

ซดน้ำแกงจนขอดก้นชามด้วยความภาคภูมิใจอย่างยิ่งยวด ในรสอันโอชาซึ่งต้องขอบพระคุณคุณยายตุ่ม(เจ้าของพริกแกง) และป้าต้อย+พี่น้องทุกท่าน(เจ้าของผักจากกลุ่มเกษตรกรรมทางเลือกฉะเชิงเทรา) แต่ยังไงก็ต้องยกความดีความชอบให้ตัวเองที่พาส่วนประกอบดีๆ มาใส่ในหม้อเดียวกันจนได้

เมื่อหอบหิ้วผักมากมายมาโชว์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวมหกรรมสมุนไพรฯ ในหัวสมองไม่มีอะไรนอกจาก เย็นนี้ได้แกงป่าหม้อใหญ่แน่ๆ ก็ไหนจะหน่อข่าอ่อน พริกไทยอ่อน ใบยี่หร่าหรือกะเพราควายนั่นอีก มะเขือลาย มะเขือพวง ก็มีพร้อม หรูสุดๆ เมื่อมันมีดีปลี กะลูกข่าลิง นี่แหละเด็ด!!!

หักกะเพราหน้าบ้านมากำเขื่องๆ จากนั้นก็ลงมือเด็ดๆ หั่นๆ ดังภาพ เวลาเดียวกันย่างเนื้อในเตาอบพอน้ำตก เอาออกมาซอย

ตั้งหม้อละลายพริกแกงในน้ำเล็กน้อย พอเดือดใส่เนื้อลงไป เคี่ยวสักพัก ตามด้วยมะเขือพวง ลูกข่าลิง หน่อข่าอ่อน เติมน้ำให้พอขลุกขลิก ตั้งจนเดือด ไปควักหน่อไม้ส้ม(แม่เพื่อนฝากมาให้จากพิษณุโลกเป็นห่อบง คั้นเกลือเติมน้ำซาวข้าวแพกกล่องมาให้เปรี้ยวเมื่อถึงปลายทาง) ควักมาชามน้อยๆ เอามาล้างสักน้ำแล้วใส่ตามลงไป ใส่ดีปรีเลืือกเอาที่ไม่แก่จัด แล้วก็พริกไทยอ่อนตามลงไป

k1
k2
k3

ปรุงรสด้วยเกลือเม็ดนิดหน่อย (อย่าถามว่ากี่ช้อนกี่กรัม กะๆ เอา ใส่ไปชิมไปเพราะว่ามันมีความเค็มของหน่อไม้ส้มอยู่ด้วยแล้ว) น้ำปลานิดนึง น้ำปลาร้าอีกนิดนึงด้วย(ใครไม่ชอบ ใครแพ้ ไม่ต้องใส่ก็ได้) ชิมจนได้รสที่ต้องการ

k4
k5
k6

พอดีว่าชอบมะเขือเละๆ (รสนิยมส่วนตัวไม่ต้องเลียนแบบก็ได้) ใส่มะเขือลายลงไปแล้วทิ้งให้เดือดพักใหญ่ๆ ให้มะเขือเละจนสมใจแล้วสุดท้ายใบกะเพรากับยี่หร่า ใส่หม้อปิดฝา ปิดไฟ เป็นอันว่าจบสิ้นกระบวนการ

Relate Post