ตำลึง…เป็นผักสมุนไพรที่มีรสเย็น แก้ร้อนใน ช่วยดับพิษร้อน อีกทั้งยังมีสารช่วยย่อยแป้ง ทำให้ไม่อึดอัดท้อง ช่วยในการขับถ่าย แก้ท้องผูก มีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยบำรุงสุขภาพ…
…ที่สำคัญมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ จึงมีประโยชน์ต่อการชะลอความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ และเหมาะกับผู้หญิงที่ให้นมบุตร เพราะช่วยเรียกน้ำนมและมีสารอาหาร แคลเซียม วิตามิน ที่เป็นประโยชน์กับทารก…
จากการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่า…ตำลึงมีสารอาหาร 18,608 ยูนิต ซึ่งมากกว่า มะรุมประมาณ 3 เท่า (มะรุมมี 7,564 ยูนิต) ดังนั้น ผู้ที่ไม่นิยมการดื่มนมหรือดื่มไม่ได้เพราะร่างกายไม่ย่อยทำให้ท้องอืด ควรหันมาเลือกกินตำลึงให้มากๆ
“น้องแคท” นางสาวจารุวรรณ สิงห์สาธร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาอาหารและโภชนาการ คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี ได้คิดค้นสูตร “ซอสจากลูกตำลึง” มาพัฒนากลายเป็นเครื่องปรุงอาหารที่เอร็ดอร่อยซึ่งใครๆก็ทำได้…
นางสาวจารุวรรณ เจ้าของเมนูใหม่เก๋ไก๋ เล่าว่า ตำลึงเป็นผักที่ขึ้นตามรั้วบ้าน ยอดอ่อนของตำลึงนิยมนำมาประกอบอาหาร เป็นผักจิ้มกับน้ำพริก หรือนำไป ปรุงอาหารเป็นแกงเลียง แกงจืด บางท้องถิ่นชาวบ้านนำผลอ่อนตำลึงไปดองและนำไปรับประทานกับ น้ำพริกหรือปรุงเป็นแกงได้ รสชาติของลูกตำลึงสุกมีรสเปรี้ยวอมหวาน
โดยในลูกตำลึงมีฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินซี เช่นเดียวกับส่วนยอดและใบตำลึง สำหรับน้ำที่คั้นจากผลตำลึงดิบ ช่วยลดน้ำตาลในเลือดและโรคเบา-หวานได้ คุณค่าโภชนาการของลูกตำลึง 100 กรัม ประกอบด้วย พลังงาน 20 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 5.2 กรัม โปรตีน 0.7 กรัม แคลเซียม 25 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 25 มิลลิกรัม และ เหล็ก 0.6 มิลลิกรัม
ในการผลิต…ซอสลูกตำลึง เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับลูกตำลึงสุก และเป็นทางเลือกหนึ่งของคนไทย สำหรับผู้ที่ชอบในรสชาติของซอส ถ้าทำขึ้นเพื่อรับประทานเองได้รสชาติซอสลูกตำลึงตามความชอบที่สดใหม่ ปลอดภัยปราศจากสารเคมี เพราะไม่ต้องป้องกันแมลงศัตรูพืช
สำหรับ ส่วนผสมในการทำซอสลูกตำลึง ได้แก่ ลูกตำลึงสุก 1 กิโลกรัม พริกชี้ฟ้าแดง 200 กรัม กระเทียมสับ 200 กรัม อบเชย 1 ชิ้น น้ำส้มสายชู 150 กรัม น้ำตาลทราย 400 กรัม เกลือ 50 กรัม ซึ่งจากสูตรดังกล่าวจะได้ ซอสลูกตำลึงประมาณ 600 กรัม
น้องแคท…เล่าถึงขั้นตอนในการผลิตซอสลูกตำลึงว่า เริ่มจากนำน้ำใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟ ใส่กระเทียม ลูกตำลึงสุก พริกชี้ฟ้า ต้มจนเปื่อยก่อนจะนำส่วนผสมมายีบนตะแกรงหรือปั่นให้ละเอียด (ต้องเอาเมล็ดออก) แล้วจึงใส่น้ำส้มสายชู น้ำตาลทราย เกลือ นำไปลงหม้อตั้งไฟให้ละลายเข้ากัน
จากนั้นนำส่วนผสมที่ปั่นละเอียดแล้วใส่ลงหม้อ ตั้งไฟเคี่ยวจนข้น (ไฟแรงปานกลาง เคี่ยวประมาณ 20 นาที) สังเกตสีจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม พร้อมกับชิมรสชาติตามที่ชอบ นำซอสลูกตำลึงกรอกใส่ขวดที่ล้างสะอาด แล้วปิดฝาให้สนิท นำไปนึ่ง ฆ่าเชื้อโรคประมาณ 30 นาที เท่านี้ก็จะได้ซอสลูกตำลึง สามารถเก็บไว้รับประทานกับของทอด เช่น ไส้กรอก ไก่ทอด หรือปรุงอาหารแทนซอสมะเขือเทศ โดยมีอายุเก็บไว้ได้ 1 เดือนในอุณหภูมิห้อง หากเปิดฝาแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็น
ซอสลูกตำลึง…ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ รับรองว่ารสชาติถูกใจผู้บริโภค เป็นการสร้างไอเดียที่นำสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว มาดัดแปลงกลายเป็นเมนูที่หลายๆคนคิดไม่ถึง ซึ่งผลิตภัณฑ์ยัง ไม่มีจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไปสูตรนี้ผลิตขึ้นเพื่อเป็นการเผยแพร่ให้กับผู้ที่สนใจนำไปทดลองทำ ซึ่งคิดค้นโดยมี ผศ.สุชาดา งามประภาวัฒน์ เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัย กริ๊งกร๊างหาน้องแคทที่ 08-5744-0219 ในเวลาราชการ.
“ไชยรัตน์ ส้มฉุน”
ที่มา: ไทยรัฐ 22 เมษายน 255 โดย ไชยรัตน์ ส้มฉุน http://www.thairath.co.th/column/eco/capable/165639
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”