ตอนแรก ผมรู้สึกกังวลเพราะกลัวว่าคงจะเกิดปัญหาอย่างมากกับคนจนในโลกนี้ แต่ผมก็มีความรู้สึกอีกอย่างในเวลาเดียวกันว่า มันอาจนำมาสู่การปลดปล่อยออกจากเศรษฐกิจลวงที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ได้ เราต้องหันกลับสู่เศรษฐกิจที่แท้จริง นั่นคือโอกาส ! ถ้าเกษตรกรรมกลับคืนสู่เศรษฐกิจท้องถิ่น สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวง
แต่เราถูกบอกให้บริโภคต่อไปเรื่อยๆ และใครเป็นตัวการสำคัญในเรื่องนี้ทั้งหมด” พ่อมดแห่งอ๊อซหรือ” ไม่ใช่! พวกเราทั้งหมดต่างหาก เราไปที่ตู้เย็นและก็เปิดมัน แต่ตู้เย็นก็เป็นเหมือนหลุมฝังศพ คือ เป็นที่ที่อาหารจะเน่าเปื่อยตายลง และเมื่อมันตาย มันก็ถูกส่งตรงไปยังถังขยะ ตู้แช่แข็งก็เหมือนกัน แต่เรากลับรู้สึกว่าตู้แช่แข็งของเราต้องเต็มอยู่ตลอด เราทั้งหมดกำลังเข้าร่วมกับวัฒนธรรมแปลกประหลาดนี้…ตราบใดที่คุณภาพถูกมองว่าเป็นความหรูหราฟุ่มเฟือย ทุกอย่างก็คือหายนะ คุณภาพควรจะเป็นสิทธิ์ของทุกคน เราควรจะผลิตให้น้อยลงเพื่อขยะจะได้น้อยลง
“First, I was worried because there are going to be great problems for the poor people of the world,” he says. “But I have a simultaneous feeling, too. It could lead to a freedom from a false, dog-eat-dog economy. We have to return to a real economy. That’s the opportunity. If agriculture returns to a local economy this could be enormously helpful.”
“But we are told to keep consuming. And who is the central character in all this? The Wizard of Oz? No, it’s all of us. We go to our fridges and open them. But fridges are like tombs ? places where food goes to die. And when it dies it goes straight into the bin. Our freezers are the same. Yet we feel we must have full freezers. All of us are joining in with this perverse culture. This historic moment has given us time for this kind of thinking. As long as quality is seen as a luxury, everything is a disaster. Quality should be a right for everyone. We should be producing less so there is less waste.”
โค้ดคำพูดของ คาโล เปรตินี ผู้ก่อตั้งขบวนการสโลว์ฟู้ด
จากบทสัมภาษณ์ ใน Slow food: Have we lost our appetite??
โดย Leo Hickman? ในหนังสือพิมพ์ guardian สหรัฐาชอาณาจักร พุธที่ 4 กุมภาพันธ์ 2009