“เรื่องราวความรักของเรา” โดย…หลวงปู่ “ติช นัท ฮันท์”
ธรรมสวัสดีสังฆะ นี่คือวันแรกของการภาวนาฤดูร้อน? ทุกครั้งที่เรไาด้ยินเสียงระฆัง คล้ายกับว่าเราได้สับเปลี่ยนใจของเราไปสู่ช่องโทรทัศน์อีกช่องหนึ่งที่หมู่ บ้านพลัม ทุกครั้งที่เราได้ยินเสียงระฆังเราจะหยุดคิด หยุดสนทนา และกลับมาอยู่กับลมหายใจเข้าและออก เรากลายเป็นลมหายใจเข้าและออก ของเราเอง เราได้รับสิ่งนี้มาจากช่องโทรทัศน์แแห่งสติหรือช่องโทรทัศน์แห่งพระพุทธองค์ การสับเปลี่ยนตัวเองไปอยู่ในช่องโทรทัศน์แห่งพระพุทธองค์เป็นครั้งคราวนั้น เป็นความเพลิดเพลิน
ดังนั้นระฆังแห่งสติจึงเป็นสิ่งที่ประโยชน์มากในการเกื้อกูลให้เราสับ เปลี่ยนช่องโทรทัศน์ของใจเราได้อย่างฉับพลัน บางครั้งเธอออาจจะหยุดคิดถึงสิ่งที่น่าหดหู่ น่าหนักใจ หรือเจ็บปวด เมื่อใดที่เธอได้ยินเสียงระฆัง เธอจะหยุดคิดถึงสิ่งเหล่านี้ หยุดจากการถุกครอบงำโดยความคิดเหล่านั้น เปลี่ยนจากช่องแห่งความเศร้ามาสู่ช่องโทรทัศน์แห่งความสว่างและความสงบและ กลับมาสู่ลมหายใจเข้าออกของเธอเอง เธอหายใจเข้าออกเพื่อที่จะได้สัมผัวกับปัจจุบันขณะ
เรื่องราวความรักของเรา
มีบางคนชอบดูและอ่านเรื่องราวแนวสืบสวนสอบสวนซึ่งมักมีการฆาตกรรมอยู่ ด้วยเสมอ มักมีตัวละครในเรื่องที่ต้องตายก่อนเพื่อให้มีเรื่องราวเกิดขึ้นได้ และจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ซึ่งมองลึกซึ่งในการสืบหาฆาตกร? ตอนที่ฉันอายุยังน้อย ฉันอ่านเรื่องแนวนี้อยู่บ้าง ตอนนี้เด็กๆ และผู้ใหญ่หลายคนใช้เวลากับการดูหนังแนวนี้ ฉันได้ยินว่า ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา มีหนังชุดเรื่องหนึ่ง ชื่อ”Columbo” ,”Lieutenant Columbo” คนที่นั่นใช้เวลาไปกับการเฝ้าดูความตายและการสืบสวนหาตัวฆาตกรของเจ้า หน้าที่ตำรวจ การใช้เวลาแบบนั้นทำให้เราเสียโอกาสกลับมาดูแลเรื่องราวความรักในชีวิตเรา เอง บางทีเราอาจมีความรู้สึกในตัวเราที่คอยบอกเราว่า “ไม่ ฉันไม่ชอบเรื่องราวความรักของตัวเอง” เราไม่ชอบเรื่องของตัวเอง เราจึงเฝ้ามองเรื่องของคนอื่นเพื่อที่จะลืมเรื่องของตัวเอง และนั่นคือโศกนาฏกรรมของชีวิต เพราะเรื่องราวของเธอสามารถเป็นเรื่องราวความรักอันมหัศจรรย์ได้
เวลาที่นักสืบและเจ้าหน้าที่ตำรวจเสาะหาตัวฆาตกรนั้น เขาต้องใช้เวลาไปกับการคิดถึงรูปคดีในขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร พวกเขาไม่ได้ทานอาหารอย่างแท้จริง เขาพยายามคิดหาวิธีสืบสวนเพื่อเปิดเผยความจริง ในเวลาที่พวกเขาเดิน เขาไม่ได้เบิกบานกับการเดิน เขาเพียงแต่มุ่งความสนใจของเขาเพื่อใคร่ครวญถึงสาเหตุของการฆาตกรรม แล้วเราก็เข้าไปร่วมกับเขาด้วย ทั้งผู้เขียนเรื่องและผู้ดูต่างสูญเสียตัวองไปกับโลกแห่งจินตนาการนั้น เราต่างละเลยความเป็นจริงที่ว่า ตัวเราเองก็มีเรื่องราวมหัศจรรย์ที่สามารถเขียนและสร้างสรรค์ขึ้นได้ นั่นคือเรื่องราวชีวิตของเราเอง
การจะทำให้ชีวิตของเราเป็นดั่งเรื่องราว ความรักอันยอดเยี่ยมนั้นเป็นไปได้เสมอ มีบางคนที่เคยมีความรักและเคยเป็นทุกข์เพราะความรักจึงทำให้พวกเขาหวาดกลัว ที่จะรัก นั่นเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ อย่างไรก็ตาม ความรักนั้นมีจริง ความ รักที่แท้จริงนั้นเป็นไปได้ ความรักที่นำมาซึ่งความสุขเป็นไปได้เสมอ ด้วยคำสอนของพระพุทธองค์ เราจะสามารถแปรเปลี่ยนชีวิตของเราให้เป็นเรื่องของความรักได้ ? “รัก”เป็นสิ่งที่เราไม่ สามารถขาดได้ หากปราศจากรักแล้วจะมีอะไรเหลือสำหรับชีวิตเราอีกเล่า ทุกสิ่งจะแห้งแล้งและไร้ความหมาย? หากเธอต้องการบ่มเพาะดุแลเมล็ดพันธุ์ พืชพันธุ์ และต้นไม้แห่งความรักให้งอกงาม? เธอจะต้องเรียนรู้วิธีที่จะรัก เธอสามารถสร้างสรรค์ชีวิตของตนเองให้งดงาม ให้ชีวิตของเธอเป็นดั่งเรื่องราวความน่ารักเรื่องหนึ่งที่สามารถให้ประโยชน์ กับพวกเราทุกคน
รัก อะไรคือรัก? รัก คือของขวัญที่เธอสร้างให้กับตัวเองและผู้อื่น ของขวัญที่ว่านี้ คือความเข้าใจ ความเมตตากรุณา ความเห็นอกเห็นใจ และความเบิกบาน หากปราศจากสิ่งเหล่านี้ เราจะไม่สามารถใช้ชีวิตได้ เราเพียงแค่เติบโตขึ้นโดยไม่ได้สนใจต่อสิ่งรอบตัวเท่านั้น เพราะเราไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างแท้จริง ดังนั้นเราควรเรียนรู้วิธีที่จะใช้ชีวิตประจำวันในวิถีที่เราสามารถสร้าง สรรค์สร้างพลังแห่งความรักในทุกขณะ
“ความรัก” ในความหมายของพระพุทธองค์ คือ พลังแห่งความเข้าใจและความเมตตากรุณา เมื่อเธอไม่มีความเข้าใจหรือรู้สึกว่าผู้อื่นไม่เข้าใจเธอ เธอจะเป็นทุกข์และกล่าวว่า “ไม่มีใครเข้าใจฉันเลย” นั่นเป็นเพราะเธอไม่มีความรัก เธอจึงอยากมีคนที่เข้าใจตัวเธออยู่เสมอ ดังนั้น หากเธอต้องการเรียนรู้ที่จะรัก เธอจะต้องเรียนรู้วิธีที่จะสร้างพลังแห่งความเข้าใจ พวกเราหลายคนบ่นว่า ไม่มีใครเข้าใจเราเลย แต่เราลืมถามตัวเองว่า เราสามารถเข้าใจผู้อื่นได้หรือไม่ “ฉันสามารถเข้าใจเธอคนนั้นได้หรือเปล่า?” หาก เธอต้องการเข้าใจใครสักคนเธอต้องมีเวลา เธอต้องมีความเอาใจใส่ในตัวเขาหรือเธอคนนั้น เหมือนกับนักสืบที่ต้องมีเวลามองอย่างลึกซึ่งเพื่อเข้าใจและค้นหาว่าใครคือ ฆาตกร ในฐานะผู้ฝึกปฏิบัติเราต้องฝึกมองอย่างลึกซึ้ง และนี่คือของขวัญอย่างหนึ่งที่เราสมารถให้กับตัวเราเองและผู้อื่นได้
พระพุทธองค์ คือ มนุษย์ที่สามารถพัฒนาความเข้าใจและความรักของตัวเองไปสุ่จุดสูงสุด ทุกคนมีเมล็ดพันธุ์แห่งความเข้าใจและความเมตตาซึ่งเป็นธรรมชาติแห่งพระ พุทธองค์ในตัวเอง ดังนั้น วิธีใดเล่าที่จะทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งความรักและความเข้าใจในตัวเราเกิดขึ้น ในทุกๆ นาทีในชีวิตของเรา
***ที่มา: วารสาร”พลัม” ฉบับที่ 4 ,มกราคม-มีนาคม 2552
ปาฐกถาธรรม วันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ.2546 หมู่บ้านพลัม ประเทศฝรั่งเศส
แปล :กฤติมา ธรรมมิตร -จิตราพรหมจริยา
กมลวรรณ ทวีกิตติกุล-จิตราฐิติวรดา
ถอดความ:พริญญ์ ธนาภิสิทธิกุล – พุทธิจิตรา
อ้างอิงจาก มติชนออนไลน์