กระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ขยายสาขารุกคืบเข้าไปยังทุกภาคส่วนของประเทศ โดยตัวเลขล่าสุด ณ เดือนมี.ค.2555 มีธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง รวมทั่วประเทศ 11,437 สาขา เนื่องจากไม่มีกฎหมายที่จะเข้ามาควบคุมดูแล ทำให้การขยายสาขาทำได้โดยง่าย ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อร้านค้าปลีกรายย่อย (โชห่วย) ที่ปัจจุบันแทบจะล้มหายตายจากไปเกือบหมดแล้ว
เป็นที่น่าสังเกตว่า ทันทีที่มีข่าวว่ากระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าผลักดันร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกหรือค้าส่ง หรือแก้ไขบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ในส่วนของธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง มีทูตยุโรปหลายประเทศที่ประจำอยู่ในไทย ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยที่กระทรวงพาณิชย์จะยกร่างหรือแก้ไขกฎหมายดังกล่าว
สำหรับทั้ง 11,437 สาขา แยกเป็นดิสเคาต์สโตร์ 1,027 สาขา โดยเทสโก้โลตัสมีมากสุด 801 สาขา บิ๊กซี 174 สาขา และแม็คโคร 52 สาขา ประเภทซูเปอร์มาร์เก็ต 268 สาขา แยกเป็นท็อปส์ 218 สาขา วิลล่ามาร์เก็ต 18 สาขา ฟู้ดแลนด์ 12 สาขา แม็กซ์แวลู/สยามจัสโก้ 13 สาขา และโฮมเฟซมาร์ท 7 สาขา ประเภทคอนวีเนี่ยนสโตร์ 8,556 สาขา แยกเป็นเซเว่นอีเลฟเว่น 6,276 สาขา แฟมิลี่มาร์ท 529 สาขา 108 ช้อป 775 สาขา และวีช้อป 976 สาขา ประเภทดีพาร์ตเมนสโตร์ 55 สาขา แยกเป็น เซ็นทรัล 16 สาขา โรบินสัน 29 สาขา เดอะมอลล์ 8 สาขา อิเอ็มโพเรียม 1 สาขา และสยามพารากอน 1 สาขา และประเภทอื่นๆ เช่น วัตสัน เพาเวอร์บาย เฟรซมาร์ท ซีพีเฟรซมาร์ทอีก 1,531 สาขา
ที่มา: ไทยโพสต์ วันที่ 8พฤษภาคม 2555 http://www.thaipost.net/news/080512/56469
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”