หากนึกถึงบรรยากาศริมทะเล หลายคนคงนึกถึงพัทยา ภูเก็ต หรือไม่ก็หัวหินเป็นอันดับต้นๆ หากแต่คงไม่มีใครนึกถึงบรรยากาศริมทะเลที่อยู่ในกรุงเทพอย่างแน่นอน หรือถ้าหากนึกก็คงนึกถึงเพียงแต่ สวนสยาม..ทะเลกรุงเทพ บริเวณสุขาภิบาล 2 เท่านั้น
หารู้ไม่ว่าหากเลือกเดินทางไปยังอีกทิศหนึ่งก็จะได้พบกับเขตบางขุนเทียน ที่มีบรรยากาศริมทะเลแบบแท้ๆ ไปพร้อมๆ กับการสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านในชุมชนแบบเป็นกันเองที่”แสนตอ”
นี่เลย…ชุมชนแสนตอ
ชุมชนแสนตอเป็นชุมชนเล็กๆ บริเวณคลองพิทยาลงกรณ์ ในเขตบางขุนเทียน จังหวัดกรุงเทพมหานคร เดิมแต่ก่อนมาเป็นคลองส่งน้ำธรรมชาติ เดิมชื่อคลอง “สันตอ” ต่อมาชาวบ้านเรียกเสียงเพี้ยนเป็น “แสนตอ” ซึ่งสอดคล้องกับสภาพในอดีตที่มีตอไม้อยู่เป็นจำนวนมาก โดยมีอาณาเขตติดทะเล ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นป่าชายเลน
การสัญจรโดยทั่วไปภายในชุมชนยังคงใช้เรือเป็นยานพาหนะ จะมีการใช้รถยนต์ก็ต่อเมื่อต้องการเดินทางออกนอกชุมชน เดิมทีชาวบ้านในชุมชนแสนตอมีอาชีพหลักคือทำนาเกลือ แต่ต่อมาเมื่อเกลือมีราคาถูก จึงหันมาประกอบอาชีพเลี้ยงกุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งการเลี้ยงกุ้งของชาวบ้านแถบนี้มีลักษณะเฉพาะคือเป็นการเลี้ยงแบบพึ่งพาธรรมชาติ ไม่ต้องให้อาหารเพราะกุ้งจะกินอาหารตามธรรมชาติ ทำให้กุ้งปลอดภัยจากสารเคมี ซึ่งนอกจากชุมชนจะมีอาหารทะเลอุดมแล้ว ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นป่าชายเลนและที่ตั้งบริเวณริมน้ำทำให้ชุมชนแสนตอเป็นชุมชนที่มีอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน
เสน่ห์โฮมสเตย์แสนตอ
ด้วยจุดเด่นทั้งหมดที่กล่าวมาของชุมชนแสนตอ ชาวบ้านชุมชนผู้มีอัธยาศัยดีจึงได้มีแนวคิดที่จะร่วมแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ ภายในชุมชนกับทุกๆ คนไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิตแบบชนบท ความงดงามของธรรมชาติที่เงียบสงบ และอากาศบริสุทธิ์เย็นสบาย ในป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์และรายล้อมไปด้วยสายน้ำ กิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายแห่งบริเวณชุมชน
เช่น หลักเขตกรุงเทพมหานครที่ตั้งอยู่กลางน้ำและสะพานไม้ทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน และอาหารทะเลสดๆ จากวังน้ำของชาวบ้านภายในชุมชน โดยโฮมสเตย์แสนตอได้เริ่มต้นขึ้นที่บ้านของลุงสอน อดีตผู้นำชุมชน ผู้เป็นเหมือนปราชญ์ชาวบ้านที่ทุกคนให้ความนับถือ เมื่อ 5 ปีก่อน และยังคงเปิดให้บริการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศจนถึงทุกวันนี้
สุดสนุกกับกิจกรรม และอิ่มอร่อย
เมื่อมาถึงที่โฮมสเตย์แสนตอแล้วนอกจากจะได้สัมผัสวิถีชีวิตภายในชุมชนแล้ว ยังจะได้พบกับกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกสนุกกัน เช่น การชมบรรยากาศป่าชายเลน พายเรือแคนู งมหอยแครง ปั่นจักรยาน เดินสะพานไม้ ชมหลักเขต ชมการสาธิตทำกุ้งแห้ง ปลาเค็ม และกะปิ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการร่วมรับประทานอาหารทะเลสดๆ รสเด็ด ฝีมือชาวบ้าน
และสุดท้ายเมื่อทานอาหารทะเลกันอิ่มหนำแล้ว อย่าลืมร่วมกิจกรรม ปลูกป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ และกันการกัดเซาะชายฝั่งพื้นที่ชุมชน ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศและสร้างความยั่งยืน ให้ชาวบ้านและทุกๆ คนยังคงมีกุ้ง หอย ปู ปลา ไว้บริโภคกันต่อไปในอนาคต รวมทั้งทำให้พื้นที่ชุมชนแสนตอไม่ถูกน้ำเซาะจนหายไป
เรื่องและภาพ นักศึกษาโครงการควบตรี-โททางการบัญชีและบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ที่มา: มติชนออนไลน์ วันที่ 20 พฤษภาคม 2555 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1337500052&grpid=&catid=09&subcatid=0901
“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”