คุมกำเนิดและรักษาอาการปวดหัวเนื่องจากความดันด้วย ขึ้นฉ่าย

ช่วงหน้าหนาวเป็นช่วงที่ผักเบ่งบานงอกเงยสวยงาม คนไทยจึงได้บริโภคผักกันเยอะ บ้างก็ขายไม่หมดเน่าเสียเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคบางคนก็นำผักเหล่านั้นไปดองบ้าง ตากแดดให้แห้งเก็บไว้กินในฤดูกาลถัดไปบ้าง แต่จะหาใครทำอย่างนี้คงมีน้อยมาก จะว่าไปแล้วบ้านเรานี่มักกินอะไรเหลือทิ้งกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผักหรือผลไม้ก็ตาม เนื่องจากผลผลิตเหล่านี้ในแต่ละปีมีจำนวนมาก จึงมีกินมีใช้เหลือเฟือ เมื่อก่อนการเกษตรจะพึ่งพิงธรรมชาติเป็นหลัก ออกดอกออกผลตามฤดูกาลจึงมีบ้างที่ผักผลไม้บางชนิดจะขาดแคลนบางฤดูกาล มนุษย์จึงเรียนรู้จักการถนอมอาหาร แต่ในช่วงหลังที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงการเกษตรมากขึ้น เช่น บังคับในออกผลนอกฤดูกาลได้ ปลูกแบบไม่ใช้ดิน มีเมล็ดพันธุ์ที่ต้านทานโรคและแมลง หรือรวมไปถึงเทคโนโลยี GMO ด้วย จึงทำให้คนไทยกินทิ้งกินขว้างกันมากขึ้น

สำหรับผัก “ขึ้นช่าย” แล้วก็ต้องถือเป็นผักอีกชนิดที่มักอยู่ในข่ายกินทิ้งกินขว้างเช่นกัน เพราะเป็นผักที่ปลูกง่าย โรคและแมลงรบกวนน้อย ยิ่งถ้าปลูกกินเองสัก 2-3 กระถางไว้ข้างริมรั้วบ้านหรือบริเวณระเบียงก็ไม่ต้องวิตกเรื่องโรคและแมลงด้วยซ้ำไป ผักชนิดนี้มักนิยมใช้แต่งกลิ่นอาหารเพื่อดับคาวและเสริมรสชาติ โดยเฉพาะอาหารประเภทยำแซ่บทั้งหลาย ผักขึ้นฉ่ายจะต้องเป็นตัวเอกชูโรง ตำรับอาหารที่มักพบว่าใช้ผักชนิดนี้เป็นหลักก็คือผัดปลาช่อน กลิ่นหอมของผักกลบกลิ่นคาวปลาไปหมด แถมมีกลิ่นหอมของน้ำมันและผักที่ผัดเข้ากันยิ่งทำให้อาหารอร่อยน่ารับประทานยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแกงจืด สุกี้ ต้มจับฉ่าย จะต้องมีผักชนิดนี้เคียงข้างเสมอ

ขึ้นฉ่ายเป็นผักที่จัดอยู่ในตระกูลผักจากประเทศจีน ก็นับว่าเป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทยที่ขาดไม่ได้ในอาหารหลายประเภท ที่สำคัญปลูกได้ผลดี เคยสังเกตพบว่าไม่จำเป็นต้องอากาศหนาวหรือหน้าหนาวก็ปลูกได้ผลเช่นกัน แต่ก้านใบอาจจะไม่อวบขาวฉ่ำน้ำมากเหมือนในฤดูหนาวนั่นเอง หน้าตาของผักขึ้นฉ่ายจะคล้ายคลึงกับผักของคนยุโรป ที่เรียกว่า “ซาลารี่” ซึ่งใช้ในการแต่งกลิ่นและใช้ในการรักษาโรคบางประเภท แต่กลิ่นของผักซาลารี่จะแรงกว่ากลิ่นเหม็นฉุนมากกว่า คนทันสมัยเขาเอาผักซาลารี่มาปั่นหรือคั้นเอาน้ำดื่ม นัยว่าเพื่อบำรุงสุขภาพ แต่ผู้เขียนยังไม่กล้าฟันธงว่าคนที่เป็นโรคบางประเภทหรือคนปกติที่ไม่เป็น โรคควรสนับสนุนให้ดื่มเป็นประจำดีหรือไม่ เพราะยังไม่มีข้อมูลของผักชนิดนี้เพียงพอและยังไม่เคยดื่มน้ำที่ว่านี้ จึงไม่กล้าให้คำแนะนำว่าเพื่อสุขภาพจะดีหรือไม่ แต่เอาเป็นว่าเราสมัครใจใช้บริโภคผักจีนปลูกในบ้านเราเองดีกว่า เพราะหาง่ายและราคาถูกกว่ากันเยอะเลย (ยกเว้นฤดูกาลที่ผักราคาแพง เห็นราคาติดป้ายตามห้างสรรพสินค้าดังต้นละ 15-20 บาท หรือกิโลกรัมละเกือบ 200 บาท)

นักพฤกษศาสตร์จัดผักขึ้นฉ่ายไว้ในผักตระกูล APIACEAE เป็นผักร่วมตระกูลเดียวกับแครอท ผักชีหอม ผักชีฝรั่ง เป็นต้น มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Apium graveolens Linn. ชื่อเรียกทั่วไปว่า Smallage บ้างก็เรียก Celery แต่เพื่อความชัดเจนจะได้ไม่ต้องไปสับสนกับขึ้นฉ่ายฝรั่ง คนไทยก็น่าจะสมัครใจเรียกว่า Smallage หรือขึ้นฉ่ายไปเลย

ขึ้นฉ่ายมีความโดดเด่นในเรื่องสรรพคุณยา โดยเฉพาะจัดเป็นยาสำหรับลดความดันโลหิตและลดอาการปวดหัวที่มีสาเหตุจากความดันโลหิตสูง จึงไม่เหมาะที่จะกินเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากเป็นผักที่มีสารโปแตสเซียมมาก ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติในการขยายหลอดเลือดจึงช่วยลดความดันโลหิตสูงได้ และช่วยปรับสมดุลความเป็นกรดเป็นด่างในเลือด และขับปัสสาวะ

มีสรรพคุณช่วยในการคุมกำเนิดในผู้ชาย โดยจะไปทำหน้าที่ลดจำนวนอสุจิให้น้อยลง แต่ถ้าหยุดกินเมื่อไหร่ภาวะจำนวนอสุจิก็กลับคืนสู่ปกติ ก็น่าจะมีการศึกษาวิจัยต่อไปในเรื่องนี้ เผื่อจะมียาเม็ดแคปซูล หรือยาที่เป็นสารสกัดบริสุทธิ์ที่จะได้ให้ผู้ชายทั้งหลายมีบทบาทช่วยในการคุมกำเนิดบ้าง เพราะทุกวันนี้บทบาทที่จะต้องคุมกำเนิดนั้นตกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงไปโดยปริยาย แต่ถ้าเกิดพลาดมาก็กลายเป็นปัญหาสังคม เราจึงเห็นข่าวการทิ้งเด็กและฆ่าเด็กแรกเกิดเกลื่อนบ้านเกลื่อนเมือง ถ้าสังคมมาช่วยกันสอนให้ผู้ชายรู้จักระมัดระวังและหัดคุมกำเนิดบ้าง ก็อาจเป็นการช่วยลดปัญหาสังคมช่วยกันได้อีกทางหนึ่ง น่าจะดีกว่าไปดักกวดขันหน้าโรงแรมม่านรูด ฉะนั้นเมื่อขึ้นฉ่ายมีคุณสมบัติช่วยคุมกำเนิดบรรดาครอบครัวที่มีลูกยากอยู่ แล้ว ก็ควรต้องหลีกเลี่ยงหรือกินแต่น้อยๆ จะได้ไม่ไปขัดขวางลดจำนวนอสุจิลง

ในทางการแพทย์จีนกล่าวถึงผักชนิดนี้ว่ามีฤทธิ์ต่อตับ ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูตับและไต ช่วยลดความดันโลหิต ช่วยรักษาตับอักเสบ แก้ร้อนใน ช่วยให้ประจำเดือนมาปกติ ลดอาการเลือดออกในช่องคลอดอันเนื่องมาจากความร้อน ช่วยรักษามดลูกหย่อนยาน

เมล็ด มีสรรพคุณช่วยในการขับลม เป็นยาระงับอาการปวด

ราก รักษาอาการปวดตามข้อ หรือโรคเก๊าท์

ลำต้นและใบ ใช้รักษาบรรเทาอาการปวดศีรษะเนื่องจากความดันโลหิตสูง โดยเอาขึ้นฉ่ายหนึ่งกำมือล้างให้สะอาด แล้วนำไปตำหรือปั่นให้ละเอียดกรองเอาแต่น้ำให้ได้สัก 1 แก้ว ให้ผู้ป่วยดื่ม แต่ต้องดื่มเพียงน้ำแรกน้ำเดียวเท่านั้น เพราะจะมีสรรพคุณช่วยลดความดันลงอย่างเร็ว ถ้าไปดื่มซ้ำอีกจะทำให้ความดันลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้เช่นกัน

ขึ้นฉ่ายเป็นผักที่บางคนอาจนิยามว่าให้กลิ่นหอม บางคนอาจร้องยี้ติว่ามีกลิ่นเหม็น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน กลิ่นนี้คือน้ำมันหอมระเหยที่ชื่อว่าโลโมมินซีลินิน และฟาไลเดส ซึ่งช่วยในกระตุ้นการเจริญอาหาร ผักชนิดนี้สามารถจัดเข้าทำเนียบผักรักษ์สุขภาพได้ ให้ประโยชน์ทั้งด้านอาหารและยาแก่ผู้บริโภคอย่างครบถ้วน สรรพคุณอันน่าทึ่งทั้งแง่ของการคุมกำเนิดและแง่การรักษาอาการปวดศีรษะและลด ความดัน จึงน่าจะมีการศึกษาและพัฒนามาเป็นยาใช้ในประเทศได้เพราะเรามีทรัพยากรอัน เป็นต้นทุนมากมายเหลือใช้อยู่แล้ว  ที่มา: ไทยโพสต์ วันที่ 12 ธันวาคม 2553 http://www.thaipost.net/node/31375

“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”

Relate Post