ศึกฟุตบอลโลก 2010 มหกรรมที่หนุ่มๆ ตั้งหน้าตั้งตารอกันมานานเริ่มต้นขึ้นแล้ว พร้อมๆ กับการที่ทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายต้องยอมอดหลับอดนอนเพื่อลุ้นทีมโปรดจนถึงเช้า
หลังจากที่อดนอนมาทั้งคืนแล้วจะรู้สึกได้ว่า ร่างกายของเรามีอาการอ่อนเพลีย ไม่กระปรี้กระเปร่า ขาดความกระฉับกระเฉง ผิวหน้าผิวกายไม่สดใส เกิดรอยหมองคล้ำรอบดวงตา ปัญหาต่างๆ เหล่านี้รักษาง่ายๆ ด้วยสมุนไพรไทยพื้นบ้านใกล้ตัวเรานี่เอง
อ.นิพันธ์พงศ์ พานิช กรรมการผู้จัดการศูนย์ความงามโอเรียนทอลบิวตี้ มีสาระความรู้เกี่ยวกับสมุนไพร 5 ชนิด ที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายมาฝากบรรดาคุณผู้ชายที่อดหลับอดนอนหรือต้องอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ อย่างนี้ขอรับ
1.ชะเอมไทย เป็นพันธุ์ไม้เถายืนต้นมีขนาดกลาง ตามลำต้นกิ่งก้านมีหนาม ใบเล็กละเอียดเป็นฝอย มีลักษณะคล้ายส้มป่อย หรือต้นหยกและกระถิน ดอกจะมีลักษณะเป็นดอกเล็ก ฃและฟูเป็นช่อสีขาว มีกลิ่นหอม สรรพคุณ เนื้อไม้ใช้รักษาโรคในคอ รักษาลมรักษาเลือดออกตามไรฟัน บำรุงกล้ามเนื้อให้เจริญ บำรุงธาตุและกำลัง ใบ ใช้ขับเลือดให้ตก ดอก รักษาดีและเลือด ทำให้เสมหะงวดเข้า ช่วยย่อยอาหาร ราก จะมีรสหวานลักษณะคล้ายชะเอมเทศ ใช้ปรุงเป็นยา
2.ใบบัวบก มีคุณค่าทางอาหาร และมีวิตามินเอสูงมาก ช่วยบำรุงสายตาและมีสารแคลเซียมมากเช่นกัน นอกจากนั้น ยังมีวิตามินบี 1 สูงกว่าผักหลายๆ ชนิด มีสรรพคุณทางยาในการแก้ช้ำใน ทำให้หายฟกช้ำได้ดี แก้ร้อนในกระหายน้ำ ลดอากรปวดศีรษะข้างเดียว บำรุงสุขภาพสมอง แก้ความดันโลหิตสูง แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ และขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงสุขภาพได้ดี
นอกจากนี้ ในใบบัวบกจะมีสารไกลโคไซด์ (Glycosides) หลายชนิดที่ให้ผลต้านการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Antioxidation) ซึ่งส่ง ผลให้การลดความเสื่อมของเซลล์อวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ นอกจากนี้ยังพบว่าสารไกลโคไซด์ที่ได้จากใบบัวบกยังส่งผลในการช่วยดูแลสุขภาพ เร่งการสร้างสารคอลลาเจน (Collagen) ที่เป็นโครงสร้างของผิว จึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในการกระตุ้นให้แผลสมานตัวได้เร็ว
3.กระชายดำ มีลักษณะเป็นเหง้าหรือหัวคล้ายกับกระชายธรรมดาที่ใช้ปรุงอาหาร อยู่ในครัวเรือน แต่ไม่มีรากขนาดใหญ่ที่เรียกว่า “นิ้ว” เหมือนกระชายทั่วๆ ไป และเมื่อพิจารณาลักษณะใบจะพบว่า ใบของกระชายดำจะใหญ่และมีสีเขียวเข้มกว่า กาบใบมีสีแดงจางและหนาอวบ ลักษณะแตกต่างที่เด่นชัดกับกระชายธรรมดาก็คือ เนื้อในของหัวกระชายดำจะมีสีคล้ายดั่งผลหว้า คือมีสีออกม่วงอ่อนๆ ไปจนถึงสีน้ำเงินถึงดำ จึงได้ชื่อว่า “กระชายดำ” โดยสรรพคุณเฉพาะของกระชายดำเองแล้ว จะใช้เป็นยาบำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง เป็นยาเจริญอาหารและบำรุงธาตุ แก้ใจสั่นหวิว แก้ลมวิงเวียน แน่นหน้าอก แก้แผลในปาก แก้ฝีอักเสบ แก้กลากเกลื้อน ขับปัสสาวะพิการ แก้บิดมูกเลือด
4.ชาเขียว เราสามารถเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายง่ายๆ เพียงแค่นำน้ำแร่มาต้มให้เดือด ใส่ชาเขียวแบบผง หรือใบชาลงไปอาจเพิ่มใบสะระแหน่สักนิด แล้วทิ้งไว้ให้เย็น หรือนำไปแช่ในตู้เย็น ถ้าใช้ใบชา ควรกรองเอาแต่น้ำ เทใส่ขวดสเปรย์ ใช้เป็นสเปรย์น้ำแร่ชาเขียว จะเพิ่มความชุ่มชื่นและความเปล่งปลั่งให้กับผิวหน้า ฉีดได้ทุกเวลาที่คุณต้องการความสดชื่น นอกจากนี้ชาเขียวยังสามารถลดรอยหมองคล้ำใต้ตาจากการอดนอนได้ โดยต้มชาเขียวกับน้ำเดือด แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้เย็นจัด แล้วใช้สำลีชุบชาเขียวให้เปียกชุ่ม นำมาวางบริเวณเปลือกตา ทิ้งไว้ประมาณครึ่งชั่วโมง จะช่วยลดร่องรอยความอ่อนล้าของผิวรอบดวงตา และยังลดการบวมของเปลือกตาและถุงใต้ตา ผิวจะนุ่มนวลและดูสดชื่นขึ้น
5.กวาวเครือแดง (Butea superba Roxb) เป็นไม้เถายืนต้นขนาดใหญ่ อายุยิ่งมากเถาจะใหญ่จนกลายเป็นต้น แต่ยังส่งเถาเลื้อยพาดพันไปตามต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ มีลักษณะใบคล้ายใบต้นทองกวาว แต่ใบใหญ่กว่ามาก ถ้าใบอ่อนจะใหญ่ขนาดใบพลวงหรือใบต้นสัก สามารถใช้เป็นใบตองห่อข้าวได้ ถ้าใช้มีดฟันที่เปลือกต้นหรือเปลือกราก จะมียางสีแดงสดดุจเลือดไหลออกมา ถ้าขุดที่โคนต้น จะพบรากใหญ่ขนาดลำน่องลำขาเลื้อยออกจากต้นโดยรอบ ยาวขนาด วา-2 วา ขึ้นอยู่กับอายุของต้น ใช้รากทำยา มีสรรพคุณไปทางบำรุงกำลังแบบโสม แต่เหนือกว่าโสมอยู่มาก คาดว่ามีฮอร์โมนเพศชายอยู่มากจึงเป็นกวาวเครือตัวผู้ เก่งทางบำรุงสมรรถภาพทางเพศ และสามารถรักษาโรคเส้นเลือดตีบตันได้ดี จึงรักษาโรคหัวใจบางชนิดได้ เพราะสามารถทำลายไขมันในเลือดได้ แต่ความที่กระตุ้นให้หัวใจเต้นแรงและเร็วขึ้น การสูบฉีดโลหิตจึงแรง ส่งผลให้เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยความดันสูง
นอกจากการนำสมุนไพรมารักษาเพิ่มความแข็งแรงกระชุ่มกระชวยให้กับร่างกายแล้ว ควรเตรียมความพร้อมให้กับร่างกาย ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสุขภาพที่ดีจะได้อยู่กับเรานานๆ
ที่มา : สาระ น่ารู้ ไทยโพสต์ 13 มิถุนายน 2553