สายๆ แม่ไปจ่ายตลาดกลับมา ฉันเห็นแม่หิ้วปลาหน้าตาคุ้นๆ
“แม่จะทำไรให้หนูกินอ่ะ”
แม่ไม่พูด เดินเนิบๆ ตามสปีดของคนวัย 70 กว่าๆ เข้าไปหลังบ้าน
เดินอ้อมไปตรงก็อกน้ำซึ่งมีโต๊ะเล็กๆ ให้แม่ใช้ล้างและเตรียมของทำอาหาร
“ปลาตะเพียนนี่แม่” ฉันมองปาดๆ ปากถามใจนึกไปถึงเมนูปลาตะเพียนอร่อยๆ หลายอย่างตามความทรงจำที่เคยลิ้มรส
“แม่จะทำอะไร?” ฉันถามซ้ำ
“ไม่ใช่สักหน่อย ปลาตะโกก“
คำตอบของแม่ทำฉันฉงนเพียงครู่ พลางนึกออกว่าปลาน้ำจืดรูปร่าง คล้ายๆ ตะเพียนแบบนี้มีอีกหลายสายพันธุ์ที่ผู้คนเรียกแตกต่างกันไป
“ปลาตะโกก” แม่ยืนยันอีกทีขณะที่มือแม่เริ่มใช้มีดผ่าควักไส้ปลาออกมาล้าง
“ตัวมันยาวกว่าปลาตะเพียนหน่อย นี่เห็นไหม” แม่ว่าของแม่ไปเรื่อยๆ ฉันพยักหน้าหงึกหงัก เลิกสนใจแล้วว่าแม่จะทำอะไรให้กิน
ปลาสดขนาดนั้นทำอะไรให้กินก็อร่อยทั้งนั้น… ยิ่งฝีมือของแม่ด้วยแล้วละก็… ฮี่
ตกเย็นหนังจากที่ฉันพักจากงานมานั่งกึ่งนอนเล่นที่เก้าอี้ลูกระนาดตรงที่ชายคาบ้าน
ลมเย็นๆ พัดต้องผิวกาย ความรู้สึกเบื่อหน่าย อ่อนล้าจากงานที่ต้องเร่งทำกับอากาศที่ร้อนแผดกร้าวหายไปแล้ว ฉันผลอยหลับ
คงสักพักหนึ่ง ซึ่งไม่รู้นานเท่าไหร่แม่ลุกจากม้านั่งที่เอนหลังหลับไปก่อนหน้าฉันตื่นขึ้นมาแล้ว
แม่ขลุกอยู่ในครัว
ทั้งอาหารหมาและอาหารของคน 2 คน แม่ลูก แม่เป็นคนจัดเตรียมทำไว้
บางคราวแม่นั่งเตรียมกับข้าวของคนเป็น 2 – 3 ชั่วโมง
ลำพังแม่อยู่คนเดียว มักจะไม่ค่อยทำกินเองแล้ว เพราะต้องยุ่งเรื่องอาหารของหมาแมวอีกสารพัด
แต่ฉันก็ยังร้องขอยืนยันว่าแม่ฉันทำอาหารอะไรก็อร่อยและยังอยากกินจากมือแม่
“แม่รู้ไหม ตอนที่ต้องไปเรียนใหม่ๆ ออกจากบ้านไปกินอะไรก็ไม่อร่อยเหมือนกินที่บ้านเลย” ฉันว่าพลางตักกับข้าวที่แม่เตรียม ง่ายๆ กินกันมื้อเย็นที่เงียบเชียบแม่นิ่งฟังพร้อมตักกับข้าวของแม่เองกินในปากไม่ต่อความ
“กินข้าวเถอะ” แม่เรียกฉันตอน 2 ทุ่ม ตอนที่ฉันยังหมกมุ่นกับรายงานอาหารจานถั่วพื้นบ้านหน้าจอคอมพ์
แต่กระทั่งจนมีเสียงเรียกครั้ง ที่ 2 ของแม่ ฉันเพิ่งปิดหน้าจอเครื่องได้
เข้าไปในบ้าน ก็เห็นปลาต้มตะโกกของแม่ลอยเสนอหน้าในชามข้างจานยำมะเขือยาว และข้าวร้อนๆ ที่แม่ตักรอ
ฉันวิ่งกลับออกมาที่โต๊ะทำงาน เอากล้องมาถ่ายภาพ ปากก็ซักถามวิธีทำ
“ตำพริกไทย กับกระเทียม รากผักชี แล้วเอาไปต้มให้เดือด ใส่ปลา ใส่มะเขือเทศ”
ฉันใช้ช้อนตักชิมรสแล้วออกปากว่าด้วยคำติดปากของฉันที่พร่ำบอกแม่ทุกครั้งคราว
ลิ้นบอกรสว่า แม่คงลืมบอกว่าใส่กระเทียมดองด้วยนิดหน่อยอย่างแน่ใจ
“เมื่อเช้าชาวบ้านเอาปลามาขายตลาด เยอะเชียว ปลาตะโกกนี่โลแค่ 40 บาทเอง ตัวนี้ตัวเดียวนี่ 12 บาท”
แม่ว่าเศรษฐศาสตร์ตลาดสดของแม่ ให้ฟัง
บทสนทนาก็พาดพิงไปถึงน้องสาว
“มันยังรู้เวลากินปลาว่าปลาไหนอร่อย ปลาไหนสด หรือไม่สด”
ลิ้นที่ฉันกินปลาตะโกกคำนี้อยู่ บอกให้รู้ว่าทั้งไส้ ทั้งพุง ของมันไม่เหม็นมันคาวเหมือนปลาบ่อ
เนื้อของมันสดๆ ลักษณะของก้างก็แบบเดียวกันและเกล็ดของมันอร่อยไม่แพ้ปลาตะเพียน
เกล็ดปลาตะเพียนนับเป็นสุดยอดเกล็ดปลาน้ำจืดที่แม่และฉันชอบ ไม่ว่าจะต้ม หรือทอดกรอบ
แม่ไม่เคยขอดมันออกทิ้งเมื่อยามทำปลา