อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยของการดำรงชีวิตของมนุษย์ ดังนั้นเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าอาหารเป็นสิ่งที่สำคัญต่อคนเรา
โดยปกติแล้วคนเรากินอาหารทุกวัน ซึ่งถ้าเรารู้วิธีที่จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้โดยการเลือกซื้ออาหารในแบบที่ถูกต้องแล้ว ก็น่าจะช่วยโลกได้พอสมควรเลยทีเดียว
กินอย่างไรช่วยลดภาวะโลกร้อน…กินอย่างไร? วันนี้ผมมีวิธีการเลือกอาหารการกินแบบที่สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้มาฝากกันครับ การช่วยลดภาวะโลกร้อนไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แม้กระทั่งการเลือกซื้ออาหารที่ถูกต้องเหมาะสม ก็สามารถช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว
ทีนี้เรามาดูกันว่าเลือกกิน เลือกซื้อ อาหารอย่างไรถึงจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
ซื้อของสดที่ตลาดใกล้บ้าน
ถ้าใกล้ๆ บ้านของคุณมีตลาดสดอยู่ ก็ควรที่จะซื้ออาหารหรือของสดมาทำกับข้าวจากตลาดสดเลย เพราะว่าถ้าเทียบกับการซื้อกับข้าวหรือของสดที่ซูเปอร์มาร์เก็ตภายในห้างสรรพสินค้า ที่มีการใช้แพ็กเกจจิงอย่างฟุ่มเฟือย ทั้งถาดโฟม ห่อพลาสติก กล่องกระดาษ แล้วนั้น การซื้อของจากตลาดสดจะมีผลดีต่อโลกมากกว่า แล้วก็อย่าลืมเอาถุงผ้าหรือตะกร้าของเราไปจ่ายตลาดด้วยนะครับ เพราะการไม่ใช้ถุงพลาสติกจะช่วยลดขยะลงได้ถึง 10% ส่งผลให้สามารถช่วยลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 1,200 ปอนด์ นอกจากนั้นยังพบว่าในการผลิตถุงพลาสติก 1 หมื่นล้านถุง ต้องใช้ต้นไม้ถึง 14 ล้านต้น ทำให้เราสูญเสียตัวดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่ดีไปไม่น้อยอีกด้วย
แวะซื้อหลังเลิกงานหรือไปธุระ
ถ้าทางผ่านไปบ้านของคุณมีตลาดสด หรือร้านขายกับข้าวก็ควรจะแวะซื้อไปเลย จะได้ไม่เปลืองค่าน้ำมันรถ แล้วยิ่งตอนนี้น้ำมันแพง นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว ยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของเราไปอีกทางหนึ่งด้วย กินผักผลไม้ตามฤดูกาลที่ปลูกภายในประเทศ
ในกรณีนี้ยิ่งถ้าเป็นผักปลอดสารพิษนั้นยิ่งน่าอุดหนุน เพราะการใช้ยาฆ่าแมลง นอกจากจะทำให้เกิดสารพิษทำร้ายโลกแล้ว ยังจะเป็นอันตรายต่อเราอีกด้วย การเลือกซื้อผลไม้ที่ปลูกในประเทศเรานั้น นอกจากจะช่วยสนับสนุนผลิตผลของเกษตรกรไทยแล้ว ยังจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งข้ามประเทศ ลดพลังงานจากการที่ต้องแช่แข็ง แถมเรายังได้กินของที่สดกว่าอีกด้วย
ลดการกินอาหารแช่แข็ง
อาหารแช่แข็งเป็นอาหารที่แทบจะใช้พลังงานสิ้นเปลืองในทุกขั้นตอน (อาหารแช่แข็งใช้พลังงานในการผลิตสูงถึง 10 เท่าของอาหารทั่วไป) ไม่ว่าจะเป็นกล่องพลาสติกที่ใส่ การขนส่ง แล้วยังจะต้องแช่เย็นไว้ตลอดเวลา เวลาจะกินยังต้องใช้ไมโครเวฟอุ่นอีก ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรจะกินอาหารแช่แข็ง
ลดกินเนื้อวัว
อุตสาหกรรมเนื้อวัวนั้นสร้างก๊าซเรือนกระจกสูง ไม่ว่าจะเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซมีเทน ที่ออกมาจากมูลและการเรอของวัว ผู้เชี่ยวชาญเขาแนะนำว่าเราควรจะบริโภคเนื้อและแฮมเบอร์เกอร์ให้น้อยลง หากการบริโภคเนื้อแดงลดลง 10% สามารถลดปริมาณการผลิตก๊าซจากวัว แพะ และแกะได้ครับ อีกอย่างกินเนื้อน้อยลงจะช่วยลดปริมาณการผลิตเนื้อ ก็คือลดการใช้เชื้อเพลิงนั่นเอง
กินมังสวิรัติกันเถอะ
การหันมากินผักแทนเนื้อสัตว์ เพื่อให้ลดการเลี้ยงสัตว์ลงจึงเป็นทางออกสำคัญที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ซึ่งอาหารมังสวิรัติจะช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 3,000 ปอนด์ต่อคนต่อปี การกินมังสวิรัติเพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนที่ถูกต้อง ควรเลือกกินผักผลไม้ตามฤดูกาลที่มีอยู่ในท้องถิ่น ส่งเสริมผักผลไม้ที่ใช้วิธีการปลูกตามวิถีพื้นบ้าน ไม่มีการใช้สารเคมี และไม่มีการตัดต่อพันธุกรรม การกินผักผลไม้ในท้องถิ่น จะช่วยลดการคมนาคมขนส่งสินค้าจากแดนไกล นอกจากนี้การหันมากินอาหารมังสวิรัติยังเป็นการส่งเสริมให้มีการปลูกพืชผักมากขึ้น พืชผักและต้นไม้เป็นตัวดูดจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีอยู่ในอากาศ เพื่อใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง ดังนั้นการเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตร หรือแม้แต่การปลูกพืชผักสวนครัวก็มีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้ ข้อดีอีกประการของการหันมากินพืชผัก คือสามารถจัดการกับขยะที่เกิดขึ้นได้ง่ายกว่า
หากคุณผู้อ่านทั้งหลายสามารถทำแบบนี้ได้ทั้งหมด แค่นี้ก็จะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้แล้ว…ไม่ยากเลยใช่ไหมครับ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ 11 ก.ค. 52