ช่วงนี้หน่อไม้ที่บ้านยังมีให้กินไม่ขาดกอ วันก่อนไปเดินจ่ายตลาดเห็นหอยขมแกะเนื้อสำเร็จขายอยู่ ประกอบกับใบชะพลูที่บ้านแตกใบอ่อนเต็มแปลงอยู่ใต้ต้นมะม่วงตรงหัวบันได ทำให้นึกอยากกินแกงหน่อไม้ใส่ใบชะพลูขึ้นมา หาซื้อกินก็ไม่เคยเห็นว่าจะมีร้านไหนทำขาย หรือถ้ามีก็จะเป็นแบบสูตรประยุกต์ ซึ่งไม่ใช่รสชาติที่เราคุ้นลิ้น อย่างนี้ก็ต้องแกงกินเองละนะ
แกงหน่อไม้ใส่ใบชะพลู หรือ “แกงร้วม” เวลาแกงจะใส่วัตถุดิบหรือผักหลายๆ อย่าง ซึ่งชื่อเรียกของแต่ละบ้านอาจจะไม่เหมือนกัน แต่วิธีทำและวัตถุดิบที่ใช้ไม่แตกต่างกันมากนัก บางบ้านจะใส่ชะอมกับปลาย่าง หรือใส่เนื้อหมูลงไปด้วย แต่สูตรที่จะนำมาฝากในวันนี้เป็นแบบดั้งเดิมที่เคยกินจากฝีมือแม่ตั้งแต่สมัยเด็กๆ รู้จักชื่อแกงชนิดนี้มาแต่ไหนแต่ไร
วัตถุดิบ :
– หน่อไม้สด 1-2 หน่อ
– มะพร้าวแก่ 1 ลูก
– เนื้อหอยขม 2 ขีด
– ใบชะพลู 1 กำมือ
เครื่องปรุง :
1. พริกแห้ง 6-7 เม็ด
2. หัวหอม 2 หัว
3. กระเทียม 2-3 หัว
4. กระชาย
5. กะปิ 1 ช้อน
6. ผิวมะกรูด 2 แว่น
ปรุงรสแต่งกลิ่น : น้ำปลาหรือเกลือ
ลงมือทำ :
– หน่อสับหยาบๆ ล้างน้ำให้สะอาดพักไว้ก่อน
– เนื้อหอยขมนำมาลวกด้วยน้ำร้อนพักไว้
– ใบชะพลูล้างให้สะอาดแล้วหั่นหยาบๆ พักไว้
– ลงมือโขลกเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกัน เริ่มจากโขลกผิวมะกรูดให้ละเอียดก่อน จากนั้นใส่เครื่องปรุงที่เหลือลงไปโขลกรวมกันให้แหลก
– คั้นมะพร้าวที่ขูดไว้ แยกหัวกะทิและหางกะทิไว้ต่างหากกัน
– นำกะทิที่คั้นครั้งที่สองขึ้นตั้งไฟ พอกะทิเดือดให้ใส่เครื่องแกงที่ตำไว้ลงไปคนๆ ให้เข้ากัน
– เดือดอีกครั้งใส่เนื้อหอยขมและหน่อไม้ตามลงไป พร้อมกับเติมหางกะทิส่วนที่เหลือลงไป กะให้พอดีกับปริมาณของหน่อไม้และหอยขม ทิ้งให้เดือดจากนั้นเคี่ยวต่อด้วยไฟปานกลางอีกประมาณ 5 นาที จึงใส่หัวกะทิตามลงไปรอพอเดือดอีกครั้งก็ปรุงรสด้วยเกลือหรือน้ำปลา เมื่อปรุงรสได้ที่แล้วก็ใส่ใบชะพลูลงไปคนๆ ให้เข้ากัน หลังจากนั้นก็ปิดแก็สเป็นอันเสร็จ ….ได้กลิ่นหอมของใบชะพลูนำมาก่อนเลยเชียวหล่ะ
แม่ฝากบอกว่า :
– ถ้าไม่มีหอยขมจะใช้หอยแมลงภู่ก็ได้เหมือน หรือจะไม่ใส่เนื้อหอยเลยก็ได้ แต่ให้ใส่ปลาย่างลงไปโขลกพร้อมกับเครื่องแกง และตอนลงหม้อก็ให้ใส่น้ำปลาร้าลงไปด้วย ส่วนวัตถุดิบและเครื่องปรุงอื่นๆ จะเหมือนกันทุกอย่าง ก็จะได้รสชาติของแกงร้วมอีกแบบนึง แต่ที่เหมือนกันคือความหวานของหน่อไม้และความหอมจากใบชะพลู
– กินแกงร้วมนอกจากจะช่วยให้เจริญอาหารแล้วใบชะพลูยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงธาตุ ขับลม แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และช่วยในการขับเสมหะอีกด้วย
– อย่าลืมทดลองทำดูนะคะ