เดินทางเข้าสู่บ้านคึมม่วง โคราช เช้าวันที่ 3 มิ.ย ช่วงนี้ฝนตกกำลังดีไม่หนักแต่สม่ำเสมอ ข้อมูลจากที่ให้ชาวบ้านบันทึกวันฝนตกและปริมาณฝนตก อยู่ในช่วง 2-4 mm เข้าไปช่วงนี้โชคดีเพราะเห็ดป่ากำลังออก
ชาวบ้านบอกว่าต้องไปแต่เช้ามืด ตีสองตีสามใช้ไฟฉายส่ง หาเห็ด เราก็สงสัยว่าถ้าไปตอนสว่างแล้วเห็นจะบานเกินไปหรือว่าอะไร ที่ไหนได้เค้าบอกว่าก็คนไปหากันเยอะไปสายก็อดนะสิ 55 เข้าใจมาตลอดว่าหาเห็ดป่าตอนมืดๆ เวลาใช้ไฟฉายส่องมันจะสะท้อนแสงทำให้หาง่ายกว่าไปหาตอนสว่าง อันนี้คิดเอาเองตลอด
ตอนนี้ป่าโคกหายไป หาเห็ดกินยากขึ้น ต้องไปหาป่าที่อยู่ไกลบ้าน วันนี้เราได้กินเห็ดตะไคร่ ได้ยินเสียงออกว่าตะใคร้ก็เลยลองดมดูว่ากลิ่นเหมือนตะใคร้หรือเปล่า อืมมีกลิ่นหอมจริงๆ แต่อ่อนกว่าตะไคร้ ชิมดูรสหวานนิดๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ถ้ากินเฉพาะตอนย่างก็อร่อยอีกแบบ แต่ถ้าเอาไปทำป่นก็ได้กับข้าวรสเลิศอีกแบบ เมนูแบบนี้หากินในเมืองกรุงยาก เพราะป่าหมดไปนานแล้วนานจนลืมว่าแต่ก่อนป่ามีทุกที่ แต่ถึงตึกรามไปหมดจนไม่เหลือเค้า สงสัยจังสมัยก่อนสักห้าร้อยปี กรุงเทพฯมีเห็ดป่าให้กินมั้ยน้อ
ส่วนประกอบ
1. เห็ดตะไคล 10 ดอกอ้วนๆ
2. พริกสด 15 เม็ด (ตามความชอบ)
3. หอมแดง 5 หัว
4. กระเทียมไทย 5 กลีบ
5. ปลาทูตัวอ้วน 2 ตัว
6. น้ำปลาร้า 2 ทัพพี
ขั้นตอนที่ 1 ย่างเห็ดตะไคลพอหอม
ขั้นตอนที่ 2 คั่วพริกสด กระเทียมไทย หอมแดง
ขั้นตอนที่ 3 หั่นเห็ด ชิมดูนิดหน่อย อืมมม… หอมหวาน สมกับเป็นเห้ดนางฟ้ากลางป่าเขา
ขั้นตอนที่ 4 ต้มปลาทูกับน้ำปลาร้า แกะเอาแต่เนื้อ หัวกับก้างให้หมากับแมว แบ่งกันยุติธรรมดี
ขั้นตอนที่ 5 ตำๆ พริก กระเทียม หอมแดง ใส่ปลาลงไปโขลก ใส่เห็ดซอย ตำๆ อย่างให้แหลกมาก ให้ขบแล้วเจอเนื้อเห็ดอร่อยตื่นเต้น ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ไม่ต้องใส่ชูรส
ขั้นตอนที่ 6 เสร็จแล้วกินกับข้าวเหนียวเล้าแตก นุ่มๆ ร้อนๆ อร่อยจริงๆ
โดย วรันธร แก้วทันคำ