ปีที่แล้วช่วงหน้าหนาว ได้แนะนำเมนูแกงถั่วแปจีเหมือนกันแต่เป็นคนละสูตร คราวที่แล้วแกงแบบใส่กระดุกหมู คราวนี้เพื่อสุขภาพใช้น้ำย่านางเป็นน้ำแกง แกงพื้นเมืองแม่สอดมีหลายเมนูที่ใช้น้ำย่านางเพราะทำให้น้ำแกงหวานกลมกล่อมไม่ต้องปรุงรสมาก ทั้งน้ำย่านางยังมีสรรพคุณทางยาและคุณค่าอาหารหลายอย่าง ปีนี้แม่มาหาฉันถึงเมืองหลวง ไม่พลาดที่จะหอบหิ้วอาหารบ้านๆมาทำกับข้าวให้ลูก ถั่วแปจีออกพอดี ช่วง ม.ค.-มี.ค. ออกช่วงแรกก็แพงหน่อย ปีนี้น้องชายปลูกถั่วแปจีไว้กินเองที่เอง ถึงแม้ปีนี้จะแล้งมากแต่ยังออกฝักให้ได้กินตลอดเนื่องจากถั่วแปจีเป็นพืชทนแล้ง เป็นพืชตระกูลเดียวกับถั่วแปบ เวลาเก็บถั่วแปจีและแกะเอาเมล็ดข้างในมา ต้องระวังไม่ให้สัมผัสเสื้อผ้าเนื่องจากเปลือกถั่วแปจีมีกลิ่นฉุนแรง ซักล้างหลายรอบกลิ่นยังติด แต่เมล็ดในฝักที่เรานำมาทำอาหารไม่มีกลิ่น รสชาติจะหวานนิดๆ มันหน่อยๆ ถั่วแปจีสดหาได้เฉพาะ อ.แม่สอด จ.ตาก และแม่ฮ่องสอน ถึงแม้จะปลูกได้ทุกที่แต่เป็นถั่วเฉพาะถิ่นจึงต้องเรียนรู้วิธีกินและวิธีนำมาเป็นอาหาร
ส่วนประกอบ
- ถั่วแปจี(ยังมีเปลือกหุ้มเมล็ด) 2 กระป๋องนม ถ้าบีบเปลือกหุ้มเมล็ดออกแล้วประมาณ 1 กระป๋องนม
- ใบย่านางคั้นสดให้ได้ปริมาณท่วมถั่วแปจีเล็กน้อย
- มะเขือส้ม (มะเขือเทศพื้นเมืองผิวบางรสเปรี้ยวนิดๆ) ถ้าไม่มีใช้มะเขือเทศสีดาหรือพันธุ์อื่นที่รสออกเปรี้ยวแทน 3-4 ลูก
- ปลาช่อนย่าง 1 ตัว หรือถ้าไม่มีใช้กุ้งแห้งแทน 1 ขยุ้มมือ
- ชะอม 10-15 ยอด
- หอมป้อมใบหอม (ต้นหอมผักชีเมืองๆ หอมป้อมเป็นผักชีพื้นเมืองใบหยิกและกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบหอมคือใบกระเทียม)ถ้าไม่มีใช้ต้นหอมผักชีทั่วไปแทน
- หอมแดง 3-4 หัว
- พริกแกง มีพริกแห้ง 5 เม็ด กระเทียมไทย 3-4 กลีบ กะปิแกง 1 ช้อนชา (ขึ้นอยู่กับความเค็มของกะปิ)
ลงมือปรุง
- คั้นน้ำย่างนาง ให้ได้ปริมาณพอท่วมถั่วเล็กน้อย นำน้ำย่านางตั้งเตาใส่ปลาย่างหรือกุ้งแห้ง และถั่วแปจีรอให้น้ำแกงเดือดให้ถั่วสุก ระหว่างนั้นให้นำเครื่องแกงซึ่งประกอบด้วย พริก กระเทียม กะปิ โขลกให้ละเอียด พอถั่วสุกให้แบ่งมา 1 ทัพพี มาตำในครกพร้อมกับพริกแกงให้แหลกเล็กน้อยตักใส่หม้อแกงถั่วแปจี เพื่อให้น้ำแกงเข้มข้น
- พอน้ำเดือดอีกรอบให้ใส่ หอมแดงซอย มะเขือเทศ ยอดชะอม พอสุก ใส่หอมป้อมใบหอม (ต้นหอมผักชี) ขั้นตอนสุดท้าย ชิมรส หากจืดให้เพิ่มเกลือแทนน้ำปลา ได้แกงถั่วแปจีเมนูชูสุขภาพ ทั้งหอม หวานกลมกล่อมธรรมชาติจากน้ำย่านาง ถั่วแปจีและหอมแดง
ส่งท้ายสรรพคุณแกงถั่วแปจี
- ถั่วแปจี ชาวเขาเผ่าเย้าใช้“ทั้งต้น”ต้มน้ำดื่มแก้เจ็บคอและเสียงแหบแห้ง ตำรายาไทยใช้ “ราก” แก้โรคซางในเด็ก เพื่อบำรุงกำลัง แก้อ่อนเพลีย แก้เสมหะ แก้ลม และแก้โรคเกี่ยวกับตา
- น้ำย่านาง เป็นยาเย็นช่วยลดไข้ ถอนพิษร้อน เป็นยาอายุวัฒนะ มีวิตามินมากมาย เช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินซี ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน ในปริมาณค่อนข้างสูง