รักษาโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบด้วยกระเจี๊ยบมอญ

ใครที่เป็นโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ ต้องทรมานกับการปวดเสียด ทานอาหารที่อยากทานก็ไม่ได้ ช่างเป็นความทุกข์เสียนี่กระไร

การรักษาโรคในกระเพาะอาหารเป็นแผลและลำไส้อักเสบ ในการแพทย์แผนไทยมีสมุนไพรหลายตัวที่แนะนำให้ใช้ เช่น ขมิ้นชัน กล้วยน้ำว้า ว่านหางจระเข้ และขอแนะนำอีกตัวคือ กระเจี๊ยบมอญหรือกระเจี๊ยบเขียว ซึ่งเป็นที่รู้จักและใช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหารมานานแล้ว  เพียงแต่ไม่เป็นที่รู้จักมากเหมือนขมิ้นชัน

ในผลกระเจี๊ยบมอญมีสาร Pectin และ Mucilage (สารเมือก) ช่วยเคลือบกระเพาะอาหารและลำไส้ และช่วยลดการดูดซึม และเป็นผักที่มีเส้นใยสูง จึงช่วยให้ขับถ่ายได้ดี สรรพคุณในตำรายาไทยได้กล่าวถึงส่วนต่างไว้ ได้แก่ ใบ แก้ไอ แก้เสมหะ ขับเมือกมันในลำไส้ให้ลงสู่ทวารหนัก  ฟอกโลหิต ผล มีรสหวานเย็น กัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำไส้ให้ลงสู่ทวารหนัก  รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บำรุงธาตุ ชูกำลัง แก้ดีพิการ เมล็ด บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง แก้ดีพิการ ขับปัสสาวะ ไม่ระบุส่วนที่ใช้ กัดเสมหะ แก้ไอ ขับเมือกมันในลำไส้ แก้ลมขึ้นเบื้องสูง เจริญอาหาร แก้พิษงู แก้ลมจุกเสียด และ ข้อมูลทางเภสัชวิทยา ระบุว่ามีฤทธิ์ฆ่าพยาธิตัวจี๊ด พยาธิไส้เดือน ลดน้ำตาลในเลือด และช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด

สารเมือกที่อยู่ในกระเจี๊ยบช่วยป้องกันการดูดซึมน้ำตาล จึงดีต่อผู้ป่วยโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง และสารเมือกช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร จึงช่วยลดอาการเจ็บปวด บรรเทาการระคายเคืองของเนื้อเยื่อกระเพาะและลำไส้ได้ดี โดยส่วนมากคนที่ใช้กระเจี๊ยบมอญรักษาโรคกระเพาะและลำไส้มักหายขาด มีน้อยมากที่รักษาไม่หายและกลุ่มคนที่อาจแพ้กระเจี๊ยบมอญ

วิธีใช้เป็นยารักษาโรคกระเพาะ คือเลือกผลกระเจี๊ยบมอญอย่างอ่อน ล้างให้สะอาด นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปตากให้แห้งสนิท จึงนำมาบดเป็นผงละเอียด จะได้ผงกระเจี๊ยบเขียวสีอ่อน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เก็บใส่ขวดโหลไว้ ใช้ชงดื่ม หรือโรยในจานข้าว โรยในเครื่องดื่ม หรือบรรจุในแคปซูล ข้อควรรู้ที่สำคัญของแคปซูลที่นำมาใช้ คือ ถ้าเป็นแคปซูลที่ทำจากข้าวเหนียวจะไปแตกตัวที่ลำไส้ ถ้าเป็นแคปซูลเจลจะแตกตัวที่กระเพาะอาหาร ถ้าเป็นที่ใดที่หนึ่งก็ลองเลือกบรรจุแคปซูลให้เหมาะสม

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีสารสำคัญหลายชนิด โดยเฉพาะเส้นใยและฟลาโวนอยด์สูง จึงมีประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระ สร้างภูมิคุ้มกันและต้านโรคร้ายได้หลายชนิด นำมาทานในอาหารประจำวันโดยใช้ผลอ่อน เช่น ต้มหรือย่างจิ้มน้ำพริก แกงเลียง การทานในรูปแบบอาหาร นอกจากได้ความอร่อยแล้ว ยังเป็นการช่วยขับพยาธิและรักษาความดันโลหิตสูงด้วย เรียกว่าได้ประโยชน์ครบครันทั้งอาหารและยา ส่วนของใบยังนำไปนึ่งแล้วใช้ประคบลดอาการปวดบวม

มีผู้บริโภคบางคนที่ชื่นชอบกระเจี๊ยบเขียวมากทานทุกๆ วันติดต่อกันนานหลายเดือน กระทั่งกลายเป็นคนขาดสารอาหาร อ่อนเพลีย แรงน้อย กว่าจะรู้ว่าสาเหตุมาจากการทานกระเจี๊ยบเขียวเพียงอย่างเดียวนานเกินไป สุขภาพก็แย่พอสมควร สันนิษฐานว่าคงเป็นเพาะเมือกในผักเคลือบกระเพาะไว้ทำให้ขัดขวางการดูซึมสาร อาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งต่อให้กินอาหารที่มีประโยชน์แค่ไหน แต่ร่างกายกลับถูกขัดขวางการดูดซึม จึงมีอาการขาดสารอาหารปรากฏนั่นเอง

นอกจากนี้ สารเมือกดังกล่าวยังสามารถนำมาใช้ในการพอกผิวได้คล้ายๆ กับการใช้วุ้นหมาน้อย หรือว่านหางจระเข้ เช่น ลดอาการแพ้สารเคมี แพ้แสงแดด ลดการแสบร้อนได้ ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้น

ใครที่มีปัญหาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบก็อย่าลืมหันมาลองใช้กระเจี๊ยบ มอญในการรักษา สร้างทางเลือกให้กับตนเองและยังนับว่าเป็นอาหารและยาราคาเยาที่หาได้ง่ายด้วย

ที่มา: ไทยโพสต์ วันที่ 5 ธันวาคม 2553 http://www.thaipost.net/node/31039

“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”