10 เมนู กินอร่อย ปล่อยแก่ ‘ส้มตำไก่ย่าง เมี่ยงปลาทู เขียวหวานไก่’ สุดยอดอาหารต้านชรา

ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ กระทรวงวิทยาศาสตร์ โดยศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นาชาติ แนะนำ 10 เมนูสุขภาพรับปี 2556 สไตล์อายุรวัฒน์

นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าว ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เทศกาลแห่งความสุข หลายคนอาจหลงลืมเรื่องอาหารการกิน หลงเพลินไปกับเค้กของหวานจนอาจจะกลายเป็นพะโล้ไป ขณะที่หลายคนได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวที่ต่างจังหวัดและกำลังคิดเมนูาใจคุณพ่อคุณแม่และญาติผู้ใหญ่ คนที่เรารัก ให้มีสุขภาพดี จึงขอแนะนำอาหารต้านชราใน 10 เมนู กินรับปีใหม่ คือ

1.ส้มตำไก่ย่าง  ที่สุดของอาหารต้านชรา  ในส้มตำมีสุดยอดวิตามินอย่าง “มะเขือเทศ” ที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและเต้านม  ; ส่วนมะละกอนั้นช่วย “ล้างพิษ” ให้กับลำไส้ทั้งน้อยและใหญ่  ในมะละกอยังมีน้ำย่อย “ปาเปน” ช่วยเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำทำความสะอาดลำไส้ให้ปลอดคราบโปรตีนเกาะ ส่วนการรับประทานคู่กับไก่ย่างนั้นมีข้อดีคือทำให้ไม่ขาดโปรตีน  และที่สำคัญคือ “ไม่อ้วน” เท่าการกินกับข้าวเหนียวหรือกินแบบหนักแป้งด้วย

2.แกงเขียวหวานไก่ ในน้ำแกงเขียวหวานเป็นอาหารทิพย์ที่อุดมไปด้วยวิตามิน  น้ำแกงเข้มข้นหอมมันคือ “ซุปวิตามินชั้นดี” ที่มีทั้งวิตามินเ อ,ดี,อีและเคที่ละลายอยู่ในกะทิ  ส่วนในเนื้อไก่ก็มีวิตามินบีที่ช่วยบำรุงสมอง  อีกทั้งในพริกที่ใส่เป็นเครื่องแกงก็มี “กรดแคปไซซิน” กับ “เบต้าแคโรทีน” ที่ช่วยบำรุงสายตาด้วย

3.เมี่ยงปลาทู  หยิบกินง่ายๆได้ทั้ง “ซัลโฟราเฟน” เป็นกลุ่มสารต้านมะเร็งจากใบคะน้าห่อเมี่ยง  ถ้าให้ดีต้องหยิบ “มะเขือเทศราชินี” หั่นเสี้ยวใส่เข้าไปด้วยจะช่วยให้ผิวพรรณสวย  ส่วนในเนื้อปลาทูมีทั้งกรดไขมันดีและ “แอสตาแซนทิน” ที่กินเข้ากัน  เพราะวิตามินที่ว่านี้โดยมากละลายในไขมัน  ถ้าท่านใส่ปลาทูทอดเข้าไปจะช่วยให้จับกันได้ดีขึ้น

4.ผัดไท โดยเฉพาะผัดไทแบบต้นตำรับคลาสสิกที่สืบทอดตำนานแต่ครั้งรัฐนิยมของท่านจอมพล ป. มา  ในผัดไทแบบนี้จะมีทั้งถั่วงอกที่ถือเป็นอาหารมงคลรับปีใหม่ด้วยหมายถึงการงอกงามของสิ่งใหม่ๆซึ่งในถั่วงอกมี “วิตามินซี” อยู่มากด้วย  นอกจากนั้นถั่วและเต้าหู้ในผัดไทยังอุดมไปด้วยวิตามินอี,แคลเซียมและสาร “พฤกษฮอร์โมน” ที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนป้องกันมะเร็งและลดไขมันได้อีก  โดยมีข้อแม้คืออย่าหนัก “เส้น” มากไป

5.ข้าวหอมนิล  ข้าวไทยหนึ่งในตองอูที่ดูเด่นด้วยสีม่วงเข้มเตะตา  ที่อัดแน่นอยู่ในสีสวยนั่นคือสาร “พฤกษเคมี” ที่มีพลังมากกว่าวิตามินอีกับซีรวมกันเสียอีก  ข้าวหอมนิลสามา รถเอามาจัดเมนูคู่ปีใหม่ได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างน้ำพริกปลาทูข้าวหอมนิล หรือจะกินคู่กับไข่เจียวร้อนๆก็ยังไหว  ขอให้ลองรับประทานดูแล้วจะติดใจ

6.ข้าวตอกน้ำกะทิ  ขนมไทยช่วงปีใหม่ที่ถูกลืมไปนาน  อยากขอให้ช่วยกันปลุกให้คืนชีพมาใหม่ครับเพราะมีคุณค่าทางอายุรวัฒน์มาก  นับตั้งแต่ตัวข้าวตอกเองที่มี “เส้นใย” ช่วยในเรื่องไขมันและน้ำตาลได้  ส่วนวิตามินข้างในนั้นก็เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์

7.ข้าวต้มมัดหรือข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้  เป็นของอร่อยกินอิ่มทนของคนมาตั้งแต่รุ่นบรรพชนไทยเรา  เป็นเมนูที่อยู่ท้องและมีประโยชน์ครบเครื่องมากเพราะมีทั้ง 5 หมู่อยู่ในนั้น ส่วนวิตามินก็มีทั้งเอ,บี,ซี    นอกจากนั้นในกล้วยยังมีเส้นใยกับสารกลุ่มฟีนอลชื่อ “กรดเอลลาจิก” ช่วยต้านมะเร็งและเนื้องอกได้ด้วย  กินแค่เมนูนี้เมนูเดียวก็ได้ครบแล้ว ไม่ว่าจะไส้กล้วยหรือไส้เผือก  ถ้าเลือกได้ก็ขอให้ทำ “สุก” ดีกว่า

8.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ  ขนมที่ดูบ้านๆนี้ถ้าจัดดีๆให้ขึ้นโต๊ะก็กลายเป็นจานหรูไปได้ เพื่อนบ้านเราอย่างอินโดนีเซียและมาเลเซียก็มีเมนูที่ว่านี้คล้ายกันแต่ไม่มีใครเหมือนของไทยตรงที่เรามีใส่เครื่องเคราเยอะไม่ว่าจะ เผือก,ลำไย,ลูกเดือยและธัญพืชอื่นๆ ซึ่งถือเป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ชั้นสูงเพราะช่วยขัดล้างตั้งแต่หลอดอาหารลงมาถึงลำไส้ใหญ่  ส่วนตัว ข้าวเหนียวดำเองก็มี “วิตามินอี” และ “ธาตุเหล็ก” สูงมาก  รวมถึง “ธาตุม่วงต้านร่วงโรย (OPCs)” ก็มีด้วย

9.ข้าวโพดม่วง  ดูๆไปอาจเห็นว่าเน้นแต่ของม่วงแต่นี่เป็นนวัตกรรมใหม่ของบ้านเราที่อยากนำเสนอคือ “ข้าวโพดทับทิมสยาม”  เป็นข้าวโพดสีสวย  ถ้าเอาไปต้มก็จะได้น้ำต้มสีม่วงสวยจนบางท่านตกใจ  แต่ในข้าวโพดม่วงนั้นประกอบด้วยคุณประโยชน์มากมาย  ทั้งวิตามินบำรุงตาอย่าง “ลูทีน” กับ “ซีแซนทิน” ส่วนวิธีทำก็ทำได้หลายเมนู อย่างทำเป็นข้าวโพดม่วงเปียกราดกะทิกิน,ข้าวโพดปิ้งกินง่ายๆในงานปีใหม่หรือจะเป็นข้าวโพดม่วงคลุกก็อร่อยจนวางไม่ลง

10.น้ำสมุนไพรแสนชื่นใจ  เช่น น้ำอัญชัน,กระเจี๊ยบ,น้ำย่านาง,น้ำใบบัวบก  น้ำเหล่านี้ถือเป็นน้ำวิตามินชั้นดี จัดเป็นน้ำนางเอกของแท้  เริ่มตั้งแต่อัญชันมีวิตามินสีม่วงที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงตับ  ส่วนน้ำกระเจี๊ยบก็มีวิตามินซีและเอช่วยบำรุงไตได้ ส่วนน้ำใบย่านางกับใบบัวบกยิ่งดีใหญ่ประกอบด้วย “คลอโรฟิลล์” ที่หลายคนใฝ่ฝันหาและยังมี “กลูต้าไทโอน” ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ วันที่ 26 ธันวาคม 2555 โดย ณัฐญา เนตรหิน http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=161210:10——-&catid=176:2009-06-25-09-26-02&Itemid=524

“กินเปลี่ยนโลกเป็นกิจกรรมสาธารณะประโยชน์การนำข่าวหรือเรื่องเล่าต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่ ไม่ได้ทำเพื่อการค้า”

Relate Post